'ศรีวราห์'ปัดจัดฉากยึดรถพา 'ยิ่งลักษณ์' หนี

'ศรีวราห์'ปัดจัดฉากยึดรถพา 'ยิ่งลักษณ์' หนี

"พล.ต.อ.ศรีวราห์" เรียก ถก ตร.สระแก้ว-ตม. เช็คเส้นทางรถทุกคัน พา "ยิ่งลักษณ์" หนี ลั่นไม่มีปาหี่ แจงปล่อย 3 นายตำรวจเพราะไม่มีอำนาจควบคุม

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฐานไม่มาฟังคำพิพากษา ในคดี โครงการจำนำข้าว โดยได้เรียกประชุมตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เพื่อสืบสวน ติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้ง รถกะบะ4ประตู สีทึบ ที่นายตำรวจขับรถไปส่งที่ จ.สระแก้ว ให้การว่าเป็นรถคันที่มารับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกทอดหนึ่ง แล้วขับออกไปทางชายแดนไทย -กัมพูชา

รองผบ.ตร. กล่าวถึงการดำเนินการกับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผบก.น.5 ช่วยราชการศปก.น.5 และพวกที่พัวพันกับรถที่นำพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปยัง จ.สระแก้ว ในวันที่ 23 สิงหาคม ว่า ได้ดำเนินการทุกอย่างแล้ว ทั้งสอบสวนบันทึกการให้ปากคำ ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีในความผิดฐานใช้เอกสารปลอม กรณีป้ายทะเบียนรถยนต์ และตั้งกรรมการสอบวินัยตำรวจทั้ง 3 นายโดยต้นสังกัด ทั้งบช.น.และ ภ.จว.นครปฐม

เมื่อถามถึงกรณีมีข้อมูลพาดพิงไปถึงอดีต ผบ.ตร. รองผบ.ตร. และนายตำรวจยศ พล.ต.ท. นั้น รองผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องรอการดำเนินคดีทางอาญาให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะขยายผลไปส่วนนี้ หากการดำเนินคดีอาญามีการพาดพิงถึงก็ต้องเชิญมา แต่ขณะนี้ขอให้เข้าใจการดำเนินคดีอาญาเป็นเพียงการดำเนินคดีในส่วนของการใช้ป้ายทะเบียนปลอมเท่านั้น ส่วนกรณีอื่นๆยังไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 และมาตราอื่นๆก็ไม่มีการระบุว่าการพาจำเลยไปไหน หรือหลบหนี มีความผิด อย่าลืมว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสถานะเป็นจำเลยเท่านั้น ตนในฐานะ ผู้รักษากฎหมายจะเอาอะไรไปเอาผิดกับคนเหล่านี้ในเมื่อกฎหมายไม่ได้ระบุว่าเป็นความผิด ขอให้คนที่วิจารณ์ไปศึกษา อ่านข้อกฎหมายให้ดี ว่าการพาจำเลยหนี ผิดกฎหมายหรือไม่ กรณีนี้ หากมีการพาหนีจริงก็เอาผิดตามกฎหมายไม่ได้ ตนจึงจับตำรวจ 3 นายกรณีพาหนีไม่ได้ เอาอำนาจ กฎหมายข้อไหนไปจับ ตอนนี้ยังไม่ทราบเลยว่าในวันที่ 27 กันยายน ศาลจะพิพากษาออกมาอย่างไร หากศาลพิพากษาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ผิด ตนไม่ถูกดำเนินคดีหรือ หากไปจับตำรวจเหล่านี้ ตนเป็นตำรวจต้องทำตามกฎหมาย ไม่ได้ทำตามอำเภอใจ ทุกคนต้องรู้อยู่แล้วว่ากฎหมายกำหนดไว้อย่างไร ขอยืนยันว่าการดำเนินการกับตำรวจทั้ง 3 นายไม่ใช่เรื่องปาหี่ แต่เป็นการสืบสวนดำเนินการตามกฎหมาย ปาหี่ไม่ได้หรอก กรณีที่พบรถแล้วสอบสวนจนพบว่าใช้ทะเบียนปลอมก็ผิดกฎหมาย แต่เรื่องอื่นไม่ผิด ยืนว่าคนอย่างตนเป็นเจ้าพนักงานในคดีนี้ ไม่เสียมวยตามที่สื่อบางสำนักวิจารณ์แน่นอน แต่ต้องทำตามกฎหมาย ตนเป็นนายตำรวจผู้ใหญ่แล้ว ไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหายแน่นอน

รองผบ.ตร.กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในประเทศ หรือนอกประเทศ จากการสอบถามผ่านช่องทางตำรวจสากล ทุกๆ 7 วัน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดยืนยันเลยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปพำนักอยู่ ที่ใด ในการสอบสวนตำรวจ 3 นาย ตนก็บอกเพียงว่า มีการไปส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ จ.สระแก้วเท่านั้น ไม่เคยบอกเลยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกนอกประเทศแล้ว ขณะนี้กำลังสืบสวนหาตัวชายที่มีข้อมูลว่ามารับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ชายแดน และสืบสวนหารถกระบะและรถเบนซ์ที่เกี่ยวข้อง

รองผบ.ตร. กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีนั้น ยืนยันว่าดำเนินคดีในส่วนทะเบียนปลอม ที่มีการสอบสวนหน่วยที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ส่วนกรณีหากมีการพาออกนอกประเทศ ต้องอธิบายว่า กรณีการการเข้าออกประเทศโดยผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมืองนั้น เป็นคดีลหุโทษที่กฎหมายระบุว่าไม่สามารถเอาผิดกับผู้ให้การสนับสนุนได้ อย่างไรก้ตามไม่จำเป็นต้องเรียกตำรวจ 3 นายมาสอบสวนหรือให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว บันทึกการให้ปากคำทุกอย่าง ร้องทุกข์กล่าวโทษในส่วนคดีอาญาไปแล้ว เหลือเพียงการดำเนินการของต้นสังกัดในการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยเท่านั้น อย่างไรก็ตามเรื่อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ดำเนินการไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า การเรียกตัวอดีต พล.ต.อ. พล.ต.ท. ที่มีข่าวพัวพันวางแผนพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีจำนำข้าวออกนอกประเทศ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของชุดทำงาน ของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ว่า สามารถขยายผลและมีน้ำหนักเพียงพอที่จะเชิญตัวมาให้ข้อมูลหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีวิจารณ์ว่าเป็นการจัดฉากยึดรถ และ สอบสวนตำรวจทั้ง 3 นาย เพื่อกลบประเด็นข่าวทางการเมือง ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ยอมให้นำศักดิ์ศรีของตำรวจมาทำลาย แลกกับการตั้งข้อสงสัยของสังคม เนื่องจากที่ผ่านมาตำรวจได้มีการวางกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย ตั้งแต่ก่อนศาลมีคำพิพากษา กระทั่งจำเลยหลบหนีคดี จึงมีการแกะรอยตรวจสอบจนทราบรถและเส้นทางหลบหนี ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องปาหี่อย่างแน่นอน ส่วนมาตรการรักษาความสงบบริเวณศาลฯ ในวันที่ 27 กันยายน ที่จะถึงนี้ กองบัญชาตำรวจนครบาล เป็นหน่วยงานที่ประเมินกำลังว่าจะใช้มากน้อยแค่ไหน ยืนยันตำรวจรักษาความปลอดภัยเต็มที่