ตีนแมวอาละวาด!! ย่องงัดบ้านคืนเดียว4หลังรวด

ตีนแมวอาละวาด!! ย่องงัดบ้านคืนเดียว4หลังรวด

ตีนแมวอาละวาดย่องเบากลางดึกงัดบ้านคืนเดียว 4 หลังรวดกวาดทรัพย์ครึ่งล้านหนีลอยนวล จี้ตำรวจเร่งล่าตัวดำเนินคดี

นายประเสริฐ แดงประเสริฐ อายุ 63 ปี ผู้ประสานงานหมู่บ้านย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ร้องเรียนว่ากลางดึกวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกงัดบ้านของสมาชิกในโครงการ โดยเบื้องต้นเท่าที่ได้รับแจ้งจากลูกบ้านพบว่า มีบ้านจำนวน 4 หลังถูกงัดแงะเข้าไปรื้อค้นและขโมยทรัพย์สิน ประกอบด้วยบ้านเลขที่ 74/165 ซอย 3 คนร้ายงัดหน้าต่างทางห้องครัวข้างบ้านเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินและหยิบเงินสดไปเป็นจำนวน 2 พันบาท บ้านเลขที่ 74/113 ซอย 3 คนร้ายเลื่อนหน้าต่างชั้นล่างของบ้านซึ่งไม่ได้ล็อก จากนั้นจึงทำการง้างเหล็กดัดเป็นช่องขนาดเท่าลูกฟุตบอลเพื่อมุดเข้าไปรื้อค้นของมีค่าในตัวบ้าน แต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรติดมือไป

จากนั้นก็บ้านเลขที่ 74/79 ซอย 9 คนร้ายใช้วิธีการเดียวกัน คือ นำกระถางดินเผาปลูกต้นไม้ที่วางไว้ในตัวบ้านเป็นฐานรองเหยียบขึ้นไปเลื่อนบานหน้าต่างชั้นล่างของบ้านซึ่งไม่ได้ล็อก ก่อนทำการง้างเหล็กดัดเป็นช่องสูงราว 35 เซนติเมตร กว้าง 20 เซนติเมตร เพื่อมุดเข้าไปรื้อของมีค่าในตัวบ้าน โดยหลังนี้คนร้ายได้เงินสดไป 5 พันบาท แหวนทอง และธนบัตรในหลวง ร.9 ที่แลกเก็บสะสมไว้เป็นที่ระลึกจำนวนหนึ่ง และหลังสุดท้ายคือบ้านเลขที่ 74 /163 ซอย 5 ซึ่งเป็นหลังที่คนร้ายได้ทรัพย์สินไปมากสุดในการก่อเหตุครั้งนี้ โดยหากคิดเป็นเงินก็มีมูลค่าสูงเกือบ 4-5 แสนบาท

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองข่อย และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุแล้ว อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีนี้ เพราะคนร้ายลงมือด้วยความย่ามใจ โดยอาศัยช่วงที่คนนอนหลับหลังเที่ยงคืนตระเวนไล่งัดแงะบ้านทุกหลัง ที่ไม่มีคนอยู่อาศัยเป็นหลัก หรือเลือกหลังที่เจ้าของบ้านนอนพักผ่อนที่ชั้นบนของตัวบ้านในการก่อเหตุ ทั้งนี้ทางสมาชิกในหมู่บ้านนับพันคนอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีและจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว เพราะในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ สตรี และเด็กอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทั้งหมดจึงรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ด้านนายกิมาติภัฒน์ เชี่ยวรักษา เจ้าของบ้านเลขที่ 74/163 เปิดเผยว่า ตนติดภารกิจเดินทางไปต่างจังหวัดตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา และเพิ่งเดินทางกลับมาถึงบ้านตัวเองช่วงสายของวันศุกร์ที่ 22 กันยายน เมื่อเข้าไปในตัวบ้านพบว่ามีรอยถูกงัดแงะในห้องครัวด้านหลังบ้านที่มีการต่อเติมออกไป จากนั้นจึงตรวจทรัพย์สินภายในบ้านพบว่ามีทรัพย์สินมีค่าหลายรายการหายไปจากห้องพระบริเวณชั้น 2 ประกอบด้วย แหวนเพชรและแหวนทองหัวพลอย ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากคุณแม่จำนวน 14 วง สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมพระหุ้มทองอีก 1 บาท และ พระหุ้มทอง 1 บาทอีกหนึ่งองค์ นาฬิกาสะสมมียี่ห้ออีก 4 เรือน และเงินสดที่เก็บไว้อีกหมื่นกว่าบาท โดยทรัพย์สินดังกล่าว่คาดว่าน่าจะร่วมหลายแสนบาท ที่สำคัญทรัพย์สินที่หายไปมีคุณค่าทางจิตใจที่ประเมินค่าไม่ได้

“จากการตรวจสอบรอบบ้านพบว่าคนร้ายได้เข้าทางห้องครัวที่ลืมล็อคประตูไว้ แต่ไม่สามารถเข้าไปในตัวบ้านได้ เพราะติดเหล็กดัดที่ประตูหลัง ซึ่งคนร้ายอาจจะอาศัยการปีนกำแพงเหยียบบนซุ้มไม้ระแนงบ้านที่ใช้แขวนต้นกล้วยไม้ปีนขึ้นห้องพระชั้น 2 ที่ลืมล็อคหน้าต่างไว้ ทั้งนี้มั่นใจว่าคนร้ายต้องรู้ทางหนีทีไล่ของคนในหมู่บ้านเป็นอย่างดีจึงสามารถลงมืองัดแงะขโมยของได้แบบมืออาชีพ ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบเร่งคลี่คลายคดีนี้ จับคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นคดีที่อุกอาจและทำให้คนในหมู่บ้านหวาดผวาเป็นอย่างมาก” นายกิมาติภัฒน์ กล่าว