แฉเส้นทางหนี 'ยิ่งลักษณ์' นัดพบ 'พ.ต.อ.' ที่ห้างดัง!!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเส้นทางการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มีรายงานจากชุดสอบสวน ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2560 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สวมหมวกสีดำ ใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า พร้อมเลขาส่วนตัว นั่งรถยนต์เมอร์สิเดสเบนซ์ออกจากบ้านพัก หลังนัดพบกับ "พ.ต.อ." นายหนึ่งที่ขับรถยนต์โตโยต้า อัลติส ตราโล่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มารอพบที่บริเวณ ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านวัชรพล โดยใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะมีรถ 2 คันมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านชัยพฤกษ์ บริเวณใกล้เคียงกัน และรถทั้ง 2 คันจะหายเข้าไปภายในบ้านพัก ของพ.ต.อ.คนดังกล่าว

กระทั่งต่อมาพบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อม "พ.ต.อ." และเลขา ได้ขับรถยนต์โตโยต้าแคมรี่ที่ตรวจยึดได้ที่จังหวัดนครปฐม ออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้า มีนบุรี ก่อนใช้ถนนสุวินทวงศ์ มุ่งหน้า จ.ฉะเชิงเทรา พนมสารคาม เขาหินซ้อน มุ่งหน้าสระแก้ว ก่อนถึงอำเภออรัญประเทศในเวลาประมาณ 22.00 น. ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะไปจอดในที่มืดใกล้เคียงสถานีรถไฟอรัญประเทศ โดยมีรถกระบะสีทึบสี่ประตูเปิดไฟฉุกเฉินรอ ก่อนที่จะมีชายร่างสูงใหญ่ลงจากรถมาพูดคุยกับคนภายในรถยนต์แคมรี่ ก่อนนำตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมเลขา ขึ้นรถกระบะ ออกจากจุดนัดพบไป

หลังจากนั้น รถยนต์แคมรี่ ที่ขับโดย "พ.ต.อ." ก็ขับรถมุ่งหน้า กทม. ก่อนประสาน "ด.ต." นายหนึ่งทางโทรศัพท์ จนกระทั่งวันที่ 28 สิงหาคม "พ.ต.อ." ได้ขับรถยนต์แคมรี่ไปให้ "ด.ต." ที่จังหวัดนครปฐม โดย "ด.ต." คนดังกล่าวได้นำรถยนต์แคมรี่ไปฝากไว้ให้กับ "พ.ต.ท." เพื่อทำลายทิ้ง เนื่องจากทั้งสามคนมีความสนิทสนมในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนพลตำรวจและผู้ใต้บังคับบัญชาที่เคยร่วมงามกันสมัยสังกัดอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม

นอกจากนี้ การสืบสวนสอบสวนยังพบว่า ทั้งสามนายตำรวจ อาจจะมีความเชื่อมโยงกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยศระดับ พลตำรวจเอก ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว และยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีมากกว่า 10 คนที่ร่วมขบวนการช่วยเหลือการหลบหนีของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แต่ยังไม่เปิดเผย อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุอีกว่า ภายหลังที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย ในวันที่ 27 กันยายน 2560 จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป