Retail Market Monitor (22 ก.ย.60)

Retail Market Monitor (22 ก.ย.60)

เน้นเก็งกำไรแบบมีจุดตัดขาดทุน ช่วงสั้นกดดันจากแรงทำกำไรหุ้นใหญ่และบรรยากาศภูมิภาค

ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวขึ้นหลังการรายงานตัวเลขส่งออกที่ดีกว่าคาด อีกทั้งมียอดเกินดุลการค้า 2,090 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาด และเป็นทิศทางที่ดีกว่าที่กระทรวงพาณิชย์เคยกล่าวในเดือนก่อนว่าอาจ “ขาดดุล” อย่างไรก็ตามหุ้นไทยยังคงมีแรงขายทำกำไรในกลุ่มธนาคาร จากแรงกดดันให้ลดดอกเบี้ยในการประชุมกนง. 27 ก.ย.นี้ เราคาดตลาดจะยังคงถูกกดดันให้ผันผวนทางลงต่อเนื่องในวันนี้จาก 1) แรงซื้อนักลงทุนต่างชาติที่ชะลอลง 2) การที่จีนถูก S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงเหลือ A+ (จาก AA-) สร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจเอเซียและบรรยากาศลงทุนของตลาดเกิดใหม่ (EM) 3) การเพิ่มระดับการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่อเกาหลีเหนือ และ 4) นักลงทุนรอดูรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องการเจรจา Brexit (22 ก.ย.) และการเลือกตั้งเยอรมัน (24ก.ย.)

Investment Theme 1) หุ้นขนาดใหญ่ที่ราคายังขึ้นน้อยและมีแนวโน้มได้รับปัจจัยบวกจากเงินทุนที่ไหลเข้า เช่น PTT BANPU SCC CPALL CPF SCB BLA* CK KCE BDMS 2) หุ้นที่มีประเด็นเฉพาะตัว TLUXE* ECF* PPS* BFIT* FER* VNG* 3) ผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น TIP* BLA* 4) หุ้นที่โมเมนตัมช่วงสั้นเป็นบวก TIP* BLA* TK* GUNKUL* LH MAJOR TU FER* ERW CK ASIAMR* NYT* PM*

ภาพรวมกลยุทธ์: แม้ภาพระยะกลาง-ยาวเป็นบวก แต่ระยะสั้นเพิ่มความระวังในการเลือกและหมุนตัวเก็งกำไร หลังหุ้นไทยเริ่มไม่ laggard ตลาดโลก ระยะสั้นคาดมีโอกาสปรับลดงโดยมีแนวรับสำคัญ 1660 และ 1650 จุด เน้นการเก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุน // หุ้นแนะนำ CPF, GGC, TTA*

ประเด็นการลงทุน

โภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันชะลอตัวลงก่อนการประชุมโอเปกวันนี้ / ราคาโลหะปรับลดจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ / ราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในภาพของการแกว่งตัวที่ระดับต่ำ / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,470.00 จุด (+1.45%) หนุนการเก็งกำไร TTA (Not rated), PSL (Not rated) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 97.30 เหรียญ/ตัน (-0.66%) / ราคาทองคำยังคงชะลอตัวจากค่าเงินเหรียญสหรัฐฯที่แข็งค่า

ดัชนีความเชื่อมั่นพุ่งแรงสุดในรอบ 7 เดือน ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (พ.ย.60) อยู่ที่ 124.13 อยู่ในเกณฑ์ Bullish เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หรือ เพิ่มขึ้น 19.34% จากเดือนก่อน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจนขึ้น ประกอบกับการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ

ส่งออกดีกว่าคาด - ยอดการส่งออกไทย ส.ค. 60 สูงสุดในรอบ 72 เดือน (ตั้งแต่ ส.ค. 54) โดยขยายตัว 13.2% YoY สูงสุดในรอบ 55 เดือน เมื่อรวม 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) เพิ่มขึ้น 8.9% YoY คาดปี 60 ส่งออกขยายตัว 7% จากเดิมที่ตั้งเป้าขยายตัว 5%

EEC – รัฐบาลเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 28 ก.ย. เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง ทั้ง AMATA, WHA, ROJNA

กลุ่มบันเทิง – ช่วงต.ค.กลุ่มบันเทิงต้องปรับผังรายการลดความบันเทิงและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ส่วนหนึ่ง แม้คาดรายงานกำไรไตรมาส 3/60 แข็งแกร่ง และทิศทางระยะยาวฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ในระยะสั้นขอให้นักลงทุนเพิ่มความระวังต่อการเก็งกำไร และรอซื้อ/สะสมช่วงราคาหุ้นอ่อนตัว โดยทางกลยุทธ์เราชอบ MONO*

EARTH – ศาลล้มละลายสั่งเอิร์ทเข้าฟื้นฟูกิจการ และไกลไกล่หนี้ก้อนใหญ่ 27 ก.ย.

CPN – แจ้งตลท.ได้รับค่าสินไหมตามกรมธรรม์ประกันภัยการก่อการร้าย 3,500 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว

ประเด็นติดตาม: 22 ก.ย. – ยอดส่งออกและจำหน่ายรถยนต์ของไทย / 22 ก.ย. – โอเปคประชุม / 24 ก.ย. – เลือกตั้งเยอรมัน/ 27 ก.ย. – ประชุมกนง.

แนวรับ : 1660 / แนวต้าน : 1675 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)

หุ้นแนะนำ

  • CPF (37.5) : ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดและมีแนวโน้มเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับเป็นหนึ่งในหุ้นใหญ่ที่ราคายัง Laggard ตลาดรวม
  • GGC* (17) : ผู้ผลิตไบโอดีเซลและ Fatty Alcohol รายใหญ่ในไทย คาดผลการดา เนินงานครึ่งปี หลังฟื้นตัวจากการไม่มี stock loss มากเช่นในไตรมาส 2/60 และเข้าศุ่ช่วง High season ช่วงปลายปี
  • TTA* (13) : กลุ่มเดินเรือยังคงเป็นหุ้นที่มีการถือครองน้อย (under-owned) ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ 095x PBV ขณะที่ค่าระวางมีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบ high ในรอบ 3 ปี ที่ 1484 จุด
  • หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ: TIP* BLA* TK* GUNKUL*, LH, MAJOR, TU, FER*, ERW, CK, ASIAMR*, NYT*, PM*