ถ้อยแถลงเฟดฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (21ก.ย.)ตามเวลาท้องถิ่นในแดนลบ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศสิ้นสุดการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเมื่อวานนี้ และสหรัฐ ออกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง  53.36 จุดหรือ 0.24 % ปิดที่ 22,359.23 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 7.64  จุดหรือ 0.30% ปิดที่ 2,500.6 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลบ 33.35 จุดหรือ 0.52% ปิดที่ 6,422.69 จุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นแอปเปิลร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นสวนทางตลาด ขานรับการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

อย่างไรก็ตาม แม้เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดเมื่อวานนี้ แต่แถลงการณ์ของเฟดก็บ่งชี้การคุมเข้มนโยบายการเงินมากกว่าที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุม พร้อมกับส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ เฟดยังได้ประกาศว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลที่ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือเอ็มบีเอส ในเดือนต.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

ภายใต้นโยบายปรับลดงบดุลของเฟด เฟดจะกำหนดวงเงินพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และเอ็มบีเอส ที่เฟดจะปล่อยให้ครบกำหนดอายุโดยไม่มีการนำเม็ดเงินไปลงทุนใหม่ และจะเพิ่มเพดานตามเป้าหมายที่เฟดกำหนด โดยในเบื้องต้น เฟดจะจำกัดเพดานการลดวงเงินการถือครองตราสารเหล่านี้ที่ระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะขยายเพดานการลดการถือครองตราสารอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในทุกๆ ไตรมาส จนกระทั่งแตะระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนในเดือนต.ค.2561