MORNING CALL ACTION NOTES (21 ก.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (21 ก.ย.60)

FED คงดอกเบี้ยตามคาด

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากนลท.ลดความเสี่ยงเพื่อรอผลการประชุม FOMC  ประกอบกับเริ่มเห็นสัญญาณ Fund Flow ต่างชาติชะลอตัว ส่งผลให้ SET ปิดลบที่ 1,670.65 จุด (-1.94 จุด) Vol. 6.4 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -1,895 ลบ.  TFEX Net -3,571 สัญญา ตราสารหนี้ +1,535 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+/- ผลประชุม FED คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.00-1.25% และจะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือนต.ค. (จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์) โดยเฟดจะลดวงเงินการถือครอง 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนจะขยายการลดการถือครองอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในทุกๆ ไตรมาส จนแตะระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนในเดือนต.ค.2018 รวมถึงส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ (คาดว่าเป็นการประชุม 12 – 13 ธ.ค.)

+ ตลาดหุ้น DJ  ปรับตัวขึ้น หลังเฟดคงดอกเบี้ย-ประกาศลดงบดุลตามคาด

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 50.7 US/Barrel หลังสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐร่วงลง 2.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 เดือน รวมถึงกลุ่มในและนอกโอเปกพิจารณาขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน หรือปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น เพื่อแก้ไขภาวะน้ำมันล้นตลาด

+/- ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัวเนื่องจากชะลอการลงทุนก่อนการประชุมเฟด

+/- Foreign เป็น Net Sell 2 วันราว 2.5 พันลบ. แต่ตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.เป็น Net Buy ราว 1.1 หมื่นลบ. ส่วน TFEX เป็น Net Short ราว 8.6 หมื่นสัญญา

** สัปดาห์นี้คาดสหรัฐฯเปิดเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษี

**  24ก.ย. เลือกตั้งเยอรมัน โพลล์คาดพรรค CDU ของ Merkel จะชนะการเลือกตั้ง

ภาวะตลาดหุ้นไทยมี Sentiment เชิงบวกจากผลประชุม FED ที่คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด รวมถึงราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Sell 2 วันราว 2.5 พันลบ. รวมถึงภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะกดดันต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะผันผวนในกรอบ 1,665 - 1,680 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มนิคม (AMATA WHA) ครม.เห็นชอบพรบ. EEC

- PDI ราคาสังกะสีรีบาวด์ขึ้น +3.6% WoW ล่าสุด 3,096 US/Ton

- PSL TTA ค่าระวางเรือขึ้นทำ High รอบ 2 ปีล่าสุด 1,449 จุด

- กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ราคาน้ำมันอยู่ระดับสูงเหนือ 50 US/Barrel

- IVL EPG TU ข่าวสหรัฐฯเปิดเผยกรอบเวลาการปฏิรูปภาษีในสัปดาห์นี้

 

หุ้นแนะนำพิเศษ

PTTEP (ราคาปิด 91 Bloomberg Consensus 97.83)

  • ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น 11%QTD มายืนเหนือระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังโรงกลั่นน้ำมันในรัฐเท็กซัสของสหรัฐกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง สอดคล้องกับ IEA ที่ปรับเพิ่มอุปสงค์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกขึ้น 7% สู่ระดับ 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้โอเปกได้ลดกำลังการผลิตลง 7.9 หมื่นบาร์เรลต่อวันในเดือนส.ค. เป็นปัจจัยหนุนต่อราคน้ำมันเพิ่มเติม
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 3/60 หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อีกทั้งการประมูลแหล่งผลิตเอราวัณ-บงกชคาดว่าจะประกาศ TOR ในเดือน ต.ค. โดย PTTEP เป็นผู้รับสัมปทานเดิมแหล่งบงกช จึงมีความรู้และความชำนาญในการสำรวจและผลิต นอกจากนี้หากบริษัทชนะประมูลช่วยลดความกังวลเรื่องกำลังการผลิตที่มีแนวโน้มปรับตัวลง อีกทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนแท่นผลิตในอนาคต

  • TCMC เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมเข้าซี้อธุรกิจผลิตและจำหน่ายพรมเพื่อการพาณิชย์จาก Tai Ping Carpets International Limited ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยใช้เงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ราว 94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท ภายในเดือนนี้ พร้อมดันดันธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เข้าตลาดหุ้นลอนดอน (อินโฟเควสท์)
  • ผู้ถือหุ้น NOK โหวตผ่านแผนเพิ่มทุน 1,207 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม 1,136 ล้านหุ้น จัดสรรอัตรา 1:1 ในราคาขาย 1.50 บาทต่อหุ้น จ่อรับทรัพย์ 1,700 ล้านบาท
  • บอร์ด "กสทช." มีมติเห็นชอบลงนามเน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน ภายในเดือน ก.ย.นี้ ล่าช้า 1 เดือน คาดว่าเริ่มเปิดบริการปลายเดือน ธ.ค.60 และอนุมัติ Network Code ให้ MCOT ทำเพย์ทีวี จ่อเลือกประธาน กสทช.คนใหม่ 26 ก.ย.นี้

หุ้นมีข่าว   

  • PPS (ราคาปิด 89 ถือ ราคาเหมาะสม 2.07) มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโต ได้โครงการภาครัฐหนุนงบไตรมาส 4/60 โชว์แบ็กล็อก 498 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ 126 ล้านบาท ดันรายได้ทั้งปีโต 20% ล่าสุดบอร์ดไฟเขียวตั้งบริษัทย่อยรุกธุรกิจใหม่ คาดชัดเจนไตรมาส 4/60 (ที่มาข่าวหุ้น)
  • ความเห็น ผลประกอบการใน 3Q60 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเพราะเป็นฤดูฝนทำให้การก่อสร้างของคู่ค้าทำได้ล่าช้า แต่คาดว่าในไตรมาส 4 รายได้จะกลับมาเติบโตเนื่องจากบริษัทยังมี backlog ในระดับสูงที่ 498 ล้านบาท และพร้อมเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อเพิม Backlog เราคาดว่ากำไรปี 60 อยู่ที่ราว 56 ล้านบาทเติบโต 75%YoY

  • TRUE (ราคาปัจจุบัน 45 บาท Bloomberg Consensus 6.42 บาท) DIF เตรียมขอที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนเพิ่มทุนอีก 4.79 หมื่นล้านบาท เพิ่มขนาดกองทุนเป็น 1 แสนล้านบาท เพื่อนำไปซื้อทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานจากทรู คาดขายหน่วยละประมาณ 12 บาท ต่ำกว่าราคากระดาน (ที่มา : ข่าวหุ้น)
  • ความเห็น ประเด็นดังกล่าว สร้างความชัดเจนให้กับการจำหน่ายทรัพย์สินเข้ากองทุน DIF จาก TRUE งวดที่ 2 กว่า 5.1 หมื่นล้านบาท ที่เป็นสัดส่วนกว่า 80% ของมูลค่าการจำหน่ายทั้งหมด และน่าจะส่งผลให้ TRUE ได้กำไรพิเศษราว 3.5 หมื่นล้าน หรือ EPS ราว 1 บาท ต่อหุ้น นอกจากนี้ จำนวนเงินดังกล่าวยังสามารถนำมาชำระหนี้ ลดภาระดอบเบี้ยให้แก่ TRUE ได้เฉลี่ยปีละกว่า 3 พันล้านบาท จึงแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"

  • SAWAD (ราคาปิด 52.50 Bloomberg Consensus 71) ปั้นบีฟิทให้โตก้าวกระโดด ล่าสุดจัดพอร์ตใหม่ โอนสินเชื่อรายย่อยจากศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 ไปให้ BFIT บริหาร 1.89 พันล้าน นาน 2 ปี ขยายธุรกิจสินเชื่อ “รถแลกเงิน” ซดรายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม ขณะที่ SAWAD เตรียมเข้าถือหุ้นบีฟิทเพิ่มเป็น 70% จากเดิม 36.35% พร้อมขุนให้อ้วน ส่งรายได้เข้าบริษัทแม่ (ที่มา ข่าวหุ้น)
  • ความเห็น SAWAD เดินหน้าตามแผนปรับโครงสร้างเพื่อเปลี่ยนสถานะเป็นโฮลดิ้งด้วยการโอนธุรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกันให้กับบจ.ศรีสวัสดิ์2014 ซึ่งที่ถือหุ้น 97% ส่วน BFIT บริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน ให้บจ.เงินสดทันใจทำธุรกิจสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์อย่างเดียวจากเดิมให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกันด้วย ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER 23 เท่าสูงกว่ากลุ่มที่อยู่ที่ระดับ 17 เท่า ขณะที่กำไร 1H60 ที่ทำได้ 1,320 ลดลง 55% ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 2.6 พันลบ. +30% แนะนำทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว