ไฟไหม้บ้านไม้สักวอด 5ชีวิตวิ่งหนีตายกลางดึก

เมื่อเวลา 00.45 น.วันที่ 21 ก.ย.เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองเขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง จำนวน 5 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่งานป้องกันเทศบาลเมืองเขลางค์นคร และชุดปฏิบัติการกู้ภัย สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร สายตำรวจตำบลพระบาท เดินทางตรวจสอบ “เฮือนพิชญา” เลขที่ 380/2 ม.7 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ก่อนถึงโค้งจิตต์อารี ถนนลำปาง-แม่ทะ เพื่อระงับเหตุเพลิงไหม้บ้าน หลังรับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินตำรวจภูธรจังหวัดลำปางว่าขอสนับสนุนรถดับเพลิงเพื่อระงับเพลิงบ้านหลังดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบไฟกำลังโหมลุกไหม้บ้านทรงไทยไม้สักหลังใหญ่ มีเปลวเพลิงควันไฟโพยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิง แต่เนื่องจากบ้านเป็นไม้สักทั้งหลังเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้บ้านลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำรอบๆตัวบ้านเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านอีกหลายหลังซึ่งสร้างด้วยไม้อยู่ใกล้กันพื้นที่เดียวกัน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบมีผู้บาดเจ็บถูกไฟคลอกตามร่างกายเป็นผู้หญิง 1 ราย อายุประมาณ 29 ปี ชุดปฎิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉิน สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลลำปาง เพื่อให้เเพทย์ตรวจเช็คร่างกายและรักษาต่อไป ทราบชื่อต่อมาคือ นางจารุวรรณ พิชยาพันธ์ เป็นภรรยาของเจ้าของบ้าน

จากการสอบสวนทราบว่าบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านของนายนันทวัฒน์ พิชยาพันธ์ อายุ 54 ปี อดีตนายแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และเป็นเจ้าของห้างหุ้นสวนจำกัด ทวีชัยลิสซิ่ง หลายสาขาใน จ.ลำปาง ก่อนเกิดเหตุนายนันทวัฒน์ กับครอบครัว ประกอบด้วย นายพิชัย พิชยาพันธ์ บิดา นางจารุวรรณ พิชยาพันธ์ ภรรยาพร้อมกับลูกชายสองคน อายุ 7 ขวบ และอายุประมาณ 1 ขวบเศษ นอนหลับพักผ่อนบนบ้านทรงไทย จากนั้นตอนกลางดึกนายนันทวัฒน์ ได้กลิ่นควันไฟ จึงตื่นออกมาจากห้องนอนพอเปิดประตูก็พบไฟกำลังลุกไหม้ที่ห้องโถงอย่างรวดเร็วจึงวิ่งปลุกให้ภรรยา และลูกๆ ตื่นก่อนจะไปเรียกพ่อที่ห้องนอน พากันวิ่งหนีตายออกจากบ้านได้ทันเวลา จากนั้นจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาสกัดกั้นเพลิงดังกล่าว ส่วนค่าเสียหลายล้านบาท

เบื้องต้นคาดมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง มาเก็บหลักฐานและหาสาเหตุการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ต่อไป