เฟดชี้เฮอร์ริเคน3ลูกกระทบเศรษฐกิจระยะสั้น

เฟดชี้เฮอร์ริเคน3ลูกกระทบเศรษฐกิจระยะสั้น

เฟดชี้เฮอร์ริเคน3ลูกกระทบเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ไม่เปลี่ยนแปลงแนวโน้มระยะกลาง

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์, เออร์มา และมาเรียจะส่งผลกระทบในระยะสั้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่จะไม่เปลี่ยนแปลงแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง

ทั้งนี้ เฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ พร้อมกับส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้

 นอกจากนี้ เฟดยังประกาศว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลที่ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือเอ็มบีเอส ในเดือนต.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

ภายใต้นโยบายปรับลดงบดุลของเฟด เฟดจะกำหนดวงเงินพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และเอ็มบีเอส ที่เฟดจะปล่อยให้ครบกำหนดอายุโดยไม่มีการนำเม็ดเงินไปลงทุนใหม่ และจะเพิ่มเพดานตามเป้าหมายที่เฟดกำหนด โดยในเบื้องต้น เฟดจะจำกัดเพดานการลดวงเงินการถือครองตราสารเหล่านี้ที่ระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะขยายเพดานการลดการถือครองตราสารอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในทุกๆ ไตรมาส จนกระทั่งแตะระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนในเดือนต.ค.2561

ขณะเดียวกัน กรรมการเฟดจำนวน 12 จาก 16 รายยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้นในเดือนมี.ค. และมิ.ย.

ส่วนกรรมการเฟดจำนวน 11 จาก 16 รายคาดการณ์ว่า เฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีหน้า และ 2 ครั้งในปี 2562

เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะยาว สู่ระดับ 2.8% จากเดิมที่ระดับ 3%

สำหรับการคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้น เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวในปีนี้ สู่ระดับ 2.2% จากคาดการณ์เดิมในเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 2.1% ส่วนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 1.8%

นอกจากนี้ เฟดได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อ โดยคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.5% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.7% และคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.9% ในปีหน้า จากเดิมที่ระดับ 2.0% ขณะที่เฟดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังไม่แตะ 2% จนกว่าจะถึงปี 2562