ไฟไหม้บ้านตายายวอด วัวที่ผูกไว้เสาบ้านไปไหนไม่ได้ ถูกย่างสดตาย 2 ตัว เจ็บ 1
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 กันยายน 2560 พันตำรวจโท สุเทน ดวงพิมพ์ สารวัตรเวร สถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านที่หมู่บ้านสะเดาใหญ่ เกิดเพลิงกำลังโหม ไหม้ จึงได้ประสานกับดับเพลิง องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดาใหญ่ และปกครองอำเภอขุขันธ์ รายงานให้ นายสำรวย เกษกุล นายอำเภอขุขันธ์ ได้รับทราบ ก่อนที่จะเดินทางออกไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอ
เมื่อเดินทางไปถึง พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้บ้านไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่หลังเดียวนอกหมู่บ้าน เป็นบ้านไม้เก่าชั้นเดียว ต่อเพิงออกไปทั้งซ้ายและขวา มุงสังกะสีสภาพเก่ามาก จึงเป็นเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี เบื้องต้นทราบว่าเป็นบ้านของนายสมิน - นางแสวง บุญจูง อายุ 57 และ 53 ปี สองสามีภรรยา ไม่มีเลขที่ มาปลูกไว้เพื่อที่จะได้อาศัยพักพิงใน ช่วงฤดูกาลทำนาได้พักอาศัย ระหว่างหมู่บ้าน กับที่ทำนา ขณะเกิดเหตุเพลิงไม้ สองสามีภรรยา กลับเข้าไปในหมู่บ้าน และจะกลับมานอนพักที่บ้านนี้ทุกคืน ซึ่งในระยะ 2 – 3 วัน ก็จะเดินทางกลับเข้าไปปัดกวาดบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านสักครั้ง ก่อนที่จะเดินทางกลับออกมานอนพักที่บ้านหลังนี้ แต่ก่อนที่จะไป ได้สุมไฟโดยการนำฟางมากองข้างคอกวัว เพื่อที่จะเผาไล่ยุง ลิ้น ไม่ให้มากัดกินเลือดวัว ที่ตนเลี้ยงไว้ 3 ตัว ที่สร้างคอกไว้ข้างบ้าน ซึ่งเชื่อว่า น่าจะเกิดจากลมพัดเศษฟางที่ไหม้ปลิวไปติดบ้าน จึงเกิดเพลิงไหม้บ้านดังกล่าว โดยนอกจากเพลิงจะไหม้บ้านวอดไปทั้งหลังแล้ว ยังเผาวัวแบบย่างสดๆ ตายไป 2 ตัว อีกตัว บาดเจ็บสาหัส เพราะออกไปไหนไม่ได้ เนื่องจากเจ้าของผูกเชือกอย่างแน่นหนากับเสาคอกวัว ซึ่งทุกคนเมื่อพบเจอภาพ พากันสะเทือกใจเป็นอันมาก ซึ่งก่อนที่ไฟจะไหม้เชือกหมด วัวก็ตายก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยได้กันพื้นที่ไว้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ วิยาการจะได้มาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ให้แน่ชัดอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากวันนี้มืดค่ำแล้ว ซึ่งความเสียหายยังไม่ได้มีการประเมินแต่อย่างใด เพราะนอกจากบ้านจะวอดไปทั้งหลัง วัว แล้ว ยังมีรถไถนาเดินทาง ตู้เย็น ทีวี เครื่องเสียง หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตาแก๊ส อื่นๆ รวมทั้งเงินสดอีกจำนวนหนึ่งด้วย