อินเด็กซ์ฯโหมอาเซียนปั้นซีรีส์อีเวนท์เวียดนาม
เศรษฐกิจกลุ่มอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายตัวของประชากรรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป จึงเป็นโอกาสการขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้ ที่ต้องพัฒนากลยุทธ์ตอบโจทย์ทั้งแบรนด์สินค้าและผู้บริโภค
เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์ครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่าอินเด็กซ์ฯ ขยายการลงทุนไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนตั้งแต่ปี 2552 ทั้งในตลาดเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย
โดยเชื่อมโยงการบริหารงานในเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการนำประสบการณ์ โนว์ฮาวและความเชี่ยวชาญ มาใช้สร้างสรรค์งานตอบโจทย์การสื่อสารแบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภคในทุกเซ็กเมนท์
ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจต่างประเทศของอินเด็กซ์ฯเติบโตต่อเนื่อง จากช่วงเริ่มต้นมีสัดส่วนรายได้ 5% ปีนี้คาดการณ์อยู่ที่ 20% โดย 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.)รายได้กลุ่มนี้เติบโต 28%
ขยายเซอวิส“ดิจิทัล”
อินเด็กซ์ฯ วางกลยุทธ์ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศในฐานะผู้นำตลาดอาเซียน ด้วยการเน้นธุรกิจให้บริการงานสร้างสรรค์ เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค รวมถึงรองรับนักลงทุน นักการตลาด เพื่อรองรับตลาดทุกแพลตฟอร์ม
เกรียงไกร กล่าวว่าการขยายธุรกิจในอาเซียนบริษัทเริ่มด้วยอีเวนท์, มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส,การวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค ปัจจุบันพฤติกรรมชาวอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มซีแอลเอ็มวี ที่อินเด็กซ์ฯ เข้าไปขยายธุรกิจ พบว่ามีการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ประชากรมีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นปีนี้บริษัทจึงขยายเซอร์วิส“ดิจิทัล” ให้บริการเช่นเดียวกับดิจิทัล เอเยนซี เพื่อให้สินค้าและแบรนด์สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ทั้งตลาดในประเทศและอาเซียน
“พฤติกรรมผู้บริโภคเสพสื่อหลายสกรีน กลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์จึงต้องพัฒนาเป็นรูปแบบบไฮบริดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนท์ที่เหมาะกับท้องถิ่นแต่ใช้เทคโนโลยีระดับอินเตอร์ ถือเป็นจุดแข็งของอินเด็กซ์ฯในการรุกตลาดอาเซียน”
รายได้ธุรกิจต่างประเทศพุ่ง
ปัจจุบันอินเด็กซ์ฯ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยการเป็นศูนย์กลางด้านความคิดสร้างสรรค์(Hub of Creativity)ในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ 3 ธุรกิจหลักคือ ครีเอทีฟ บิซิเนส ดีเวลลอปเม้นท์,ให้บริการด้านการพัฒนา แบรนดิ้ง และสร้างประสบการณ์พิเศษ สู่การสร้างมูลค่าในรูปแบบของแหล่งท่องเที่ยว
กลุ่มธุรกิจ มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส ให้บริการด้านการวางแผน วางกลยุทธ์และให้คำปรึกษาด้านการตลาดต่างๆ และกลุ่มธุรกิจ ไอ-โปรเจค ให้บริการสร้างสรรค์งานโปรเจคพิเศษ
ปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 1,450 ล้านบาท คาดการณ์ปีนี้ไว้ที่ 1,700 ล้านบาท เติบโต 18% โดยปีนี้ตลาดต่างประเทศเติบโต 40% เนื่องจากรวมรายได้จากเวิลด์ เอ็กซ์โปในปีนี้
ขณะที่ตลาดในประเทศ เติบโตขึ้น 18%
ปั้นซีรีส์อีเวนท์‘เวียดนาม’
ปี2560 อินเด็กซ์ฯ ได้รับสิทธิจากรัฐบาลเวียดนาม ในการเข้าไปพัฒนาพื้นที่เปล่าของเมืองฮอยอัน ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่เป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เกรียงไกร กล่าวว่าช่วงต้นปีได้เริ่มจัดอีเวนท์แรก คือ “ฮอยอัน ไลท์ เฟสติวัล 2017” วันที่ 27 ม.ค.-5 ก.พ.2560 ซึ่งเป็นการสร้างสีสันด้วยแสงสีและเรื่องราววัฒนธรรมของเมืองมรดกโลก ผ่านไอเดียสร้างสรรค์ และนวัตกรรมต่างๆ เต็มรูปแบบ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 30%
ล่าสุดวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้จัดสปอร์ต อีเวนท์ “ฮอยอัน อินเตอร์เนชั่นแนล มาราธอน 2017” งานวิ่งมาราธอนระดับนานาชาติ ดึงดูดนักวิ่งทั้งในเวียดนาม ไทย และต่างประเทศ มาร่วมสัมผัสเสน่ห์ของเมืองฮอยอัน โดยปีแรกมีนักวิ่งร่วมงานกว่า 1,000 คน
ช่วงคริสมาสต์ปลายปีนี้เตรียมจัดงาน “ฮอยอัน เฟสติวัล” ระยะเวลา 2 สัปดาห์ เป็นรูปแบบงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน “ซีรีส์อีเวนท์”ประจำปีที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองฮอยอัน
ภายใต้สิทธิที่อินเด็กซ์ฯได้รับจากรัฐบาลเวียดนาม ได้กำหนดซีรีส์ อีเวนท์ ต่อปีไว้ 3 งานดังกล่าว แม้ปีแรกยังอยู่ในช่วงสร้างการรับรู้และต้องใช้เงินลงทุนในการจัดงาน แต่เริ่มเห็นโอกาสการหารายได้จากสปอนเซอร์สนับสนุนอีเวนท์เพิ่มขึ้น โดยงาน ฮอยอัน เฟสติวัล มีเบียร์ท้องถิ่นเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ ด้วยงบประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์ เพื่อจัดกิจกรรมลานเบียร์
จากทิศทางปีแรก มองว่าปีที่2 การพัฒนาพื้นที่เมืองฮอยอัน จะอยู่ในภาวะคุ้มทุนจากแบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนอีเวนท์เพิ่มขึ้น และมีโอกาสสร้างกำไรในปีต่อไป