วันจ่ายทำบุญเดือนสิบ ครั้งที่สองสงขลา ไม่คึกคัก

วันจ่ายทำบุญเดือนสิบ ครั้งที่สองสงขลา ไม่คึกคัก

วันจ่ายวันสารทเดือนสิบครั้งที่ 2 จ.สงขลาไม่คึกคัก ปชช.ออกมาจับจ่ายซื้อขนมเตรียมใช้ทำบุญ

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.60 บรรยากาศวันจ่ายวันสารทเดือนสิบครั้งที่ 2 จังหวัดสงขลา ไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่า อ.เมือง จ.สงขลา ประชาชนได้ออกไปจับจ่ายซื้อขนมเดือนสิบกันตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้านำมาวางจำหน่ายให้ประชาชนได้เลือกซื้อ ทั้งขนมลา ขนมต้ม ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบ้า และขนมเทียน เพื่อเตรียมนำไปใช้ในการทำบุญวันสารทเดือนสิบบุญครั้งที่ 2 หรือที่เรียกว่าทำบุญใหญ่ที่วัดในวันพรุ่งนี้ ( 20 ก.ย.) ซึ่งประชาชนจะไปทำบุญที่วัดกันเป็นจำนวนมากกว่าทำบุญครั้งแรก

อย่างไรก็ตามสำหรับราคาขนมเดือนสิบครั้งที่ 2 ราคาก็คงอยู่ที่ราคาเดิมเหมือนทำบุญครั้งแรก ถึงแม้ว่าราคาต้นทุนสินค้าในการผลิตโดยเฉพาะน้ำตาลแป้ง มะพร้าวและข้าวเหนียวจะปรับราคาสูงขึ้น เช่นขนมเจาะหู ราคาขายร้อยละ 120 บาท ขนมต้มร้อยละ 500 บาท ขนมเทียนอันละ 5 บาท ขนมพอง ชิ้นละ 5 บาท และขนมลากิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งเป็นราคาเดิมเท่ากับในช่วงทำบุญเดือนสิบครั้งแรก

สำหรับประเพณีสารทเดือนสิบเป็นงานบุญประเพณีของคนภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะชาวนครศรีธรรมราชเริ่มตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2466 เป็นต้นมา ที่ได้รับอิทธิพลด้านความเชื่อซึ่งมาจากทางศาสนาพราหมณ์โดยมีการผสมผสานกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนา(ปุพฺพเปตพลี)ซึ่งเข้ามาในภายหลัง โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชน และญาติที่ล่วงลับซึ่งได้รับการปล่อยตัวมาจากนรกที่ตนต้องจองจำอยู่เนื่องจากผลกรรมที่ตนได้เคยทำไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่โดยจะเริ่มปล่อยตัวจากนรกภูมิในวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 เพื่อมายังโลกมนุษย์โดยมีจุดประสงค์ในการมาขอส่วนบุญจากลูกหลานญาติพี่น้องที่ได้เตรียมการอุทิศไว้ให้เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลังจากนั้นก็จะกลับไปยังนรก ในวันแรม15ค่ำ เดือน10 ช่วงระยะเวลาในการประกอบพิธีกรรมของประเพณีสารทเดือนสิบจะมีขึ้น 2 ครั้ง คือ ในวันแรม1ค่ำเดือน 10 และวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี แต่สำหรับวันที่ชาวใต้มักจะนิยมทำบุญกันมาก จะเป็นการทำบุญครั้งที่ 2 ถือเป็นการทำบุญใหญ่คือวันแรม 15 ค่ำเดือน 10