จับตา 'อินชัวร์เทค' เปลี่ยนวงการประกันภัย

จับตา 'อินชัวร์เทค'  เปลี่ยนวงการประกันภัย

Frank.co.th แนะจับตา "อินชัวร์เทค" เปลี่ยนวงการประกันภัย

กลุ่มเด็กรุ่นใหม่ หรือที่เรียกกันว่ากลุ่ม millennial เข้าสู่วัยทำงาน ต้องหาเลี้ยงตัวเอง เป็นผู้กำหนดเทรนด์ และเริ่มเป็นผู้ผลักดันเศรษฐกิจ ปัจจุบันต่างชาติต่างรวมความเห็นว่า วงการประกันภัยทั่วโลกกำลังเปลี่ยนไปเพราะพฤติกรรมการบริโภคของคนรุ่นใหม่ต่างกับคนรุ่นก่อน

เมื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทในธุรกิจและเศรษฐกิจมากขึ้น ประกันภัย สินค้าที่จำเป็นสำหรับทุกคนจึงต้องปรับตัวเองให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ บริษัทประกันยักษ์ใหญ่หลายเจ้าทั่วโลกก็เห็นความจำเป็นในการปรับตัวครั้งนี้ แต่จะให้บริษัทยักษ์ใหญ่เปลี่ยนตัวเองทั้งองค์กรคงต้องใช้เวลา ในปัจจุบันเราจึงเห็นบริษัทประกันหลายๆ ที่ลงทุนหรือร่วมมือกับบริษัท Startup ที่ใช้เทคโนโลยีมาเปลี่ยนวงการประกันภัยโดยคนรุ่นใหม่เพื่อคนรุ่นใหม่

ปัจจุบัน มีนักลงทุนทั่วโลกลงทุนในสตาร์ทอัพเกี่ยวกับประกันภัยมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 23,000 กว่าล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ในผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับคนรุ่นใหม่วัย millennial

เรามีตัวอย่างประกันภัยสตาร์ทอัพสำหรับคนรุ่นใหม่ในต่างประเทศที่เชื่อว่าจะเป็นแบบอย่างให้บริษัทประกันในไทยเช่นกัน

ประกันตามความต้องการ

นอกจากชีวิตเรา ชีวิตคนในครอบครัว บ้าน รถ บริษัท คนเราก็มีของรักของหวงชิ้นอื่นที่มีค่าทางจิตใจเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ เปียโนสุดรัก ซึ่งตามทฤษฎี เมื่อเราคิดว่าสิ่งนั้นมีคุณค่ากับเรา เราก็จะอยากประกันมันไว้เพื่อรักษาดูแลให้ถึงที่สุด และในเมื่อฉุกเฉินจะได้มีคนช่วยเหลือเราได้อย่างทันเวลา ถูกจุด และคอยบริการเรา แต่ก็มีเพียงแค่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีเวลารอให้พนักงานคิดเบี้ยประกัน เพราะกว่าจะรอบริษัทประกันคำนวณเบี้ยให้เสร็จ ตรวจสอบเอกสาร ซึ่งอินชัวร์เทคเล็งเห็นที่ความต้องการส่วนนี้ พร้อมกับใช้เทคโนโลยีและฐานข้อมูลคำนวณเบี้ยประกันสำหรับทรัพย์สินแต่ละชิ้นที่ลูกค้าต้องการทำประกัน

หนึ่งในอินชัวร์เทคที่ได้รับเงินทุนมากที่สุดบริษัทหนึ่ง Trōv รับประกันทรัพย์สินส่วนตัว เช่น โน้ตบุ๊ค แล็ปท็อป มือถือสมาร์ทโฟน และกล้องถ่ายรูปราคาสูง Trōv เปิดมานาน 5 ปีแล้วได้รับเงินทุนอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ได้รับเงินทุนระดับ Series D โดยรวมทั้งหมด 90 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,900 ล้านบาท 

ปัจจุบันในฟากของอเมริกาก็มีประกันภัยตามความต้องการของลูกค้าอยู่แล้ว Cover เพิ่งได้รับเงินทุนระดับ Series A หรือ 8 ล้านดอลลาร์ หรือ 260 ล้านบาท ขั้นตอนการซื้อประกันง่ายๆ ลูกค้าเพียงถ่ายรูปของที่ต้องการให้ประกัน และ cover ก็ได้ออกกรมธรรม์ให้ โดยบริษัทประกันอย่าง Nationwide Chubb และ MetLife และบริษัทประกันอีกเจ้าในนิวยอร์ก Sure เพิ่งได้รับเงินทุน 8 ล้านดอลลาร์ หรือ 260 ล้านบาท เช่นเดียวกับ Cover ที่จะคุ้มครองสิ่งต่างๆ ที่สำคัญในชีวิตไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน กระเป๋าเดินทาง เที่ยวบินยกเลิก หรือประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยง

ประกันรถยนต์รุ่นใหม่

ถึงแม้ประกันรถยนต์ปัจจุบันจะมีชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 3+ และ ชั้น 3+ ให้เราเลือกซื้อ แต่จริงๆ ประกันแต่ละชั้นก็อาจจะไม่เหมาะสมกับเราทีเดียวนัก เพราะการขับรถของแต่ละคนก็ต่างกัน 

Metromile หนึ่งในอินชัวร์เทคที่ได้รับเงินลงทุนมากที่สุด ได้ออกแบบเครื่องมือวัดระยะทางการใช้รถ ถ้าระยะทางการขับขี่ต่อปีไม่ถึงเป้าก็ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเต็มจำนวน ส่วนบริษัทอินชัวร์เทคหนึ่งในอเมริกา Cuvva ได้รับเงินลงทุนขนาด Seed หรือระดับเริ่มต้น โดยเขาต้องการออกประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับรถชั่วคราว หรือคนที่เพิ่งหัดขับรถเลย

ประกันทรัพย์สินภายในบ้าน

บริษัทอินชัวร์เทคสตาร์ทอัพประเภทประกันทรัพย์สินภายในบ้านแข่งขันกันมากในต่างประเทศ อินชัวร์เทคที่มีชื่อเสียงที่สุดชื่อเสียงหนึ่งอย่าง Lemonade ที่อเมริกา เมื่อต้นปี บริษัทประกันของอเมริกาชื่อว่า Lemonade Insurance เพิ่งสร้างสถิติการเคลมเร็วที่สุดในโลกไป โดย Lemonade ได้เคลมความเสียหายเสื้อโค้ตของลูกค้าโดยใช้เวลาในขั้นตอนการเคลมทั้งหมด 3 วินาทีเท่านั้น ซึ่งใช้ระบบ AI ประสานงานพร้อมโอนเงินค่าเสียหายเข้าบัญชีให้กับลูกค้าทันที เพราะด้วยกระบวนการและความสามารถที่ทำประกันให้เป็นเรื่องง่ายได้จริงแบบนี้ทำให้เป็นเรื่องง่ายจริงๆ จึงทำให้ Lemonade ได้รับเงินทุนอย่างต่อเนื่องจนเกือบถึง 2,000 ล้านบาท หรือ 60 ล้านดอลลาร์ และยังได้เงินลงทุนเพิ่มจาก Allianz อีกด้วย

เงินลงทุนที่เข้ามาในอินชัวร์เทคจำนวนมากในทุกๆ ปีจาก Venture Capital ทั่วโลกทำให้เราเห็นว่า อินชัวร์เทคเป็นกระแสการลงทุนที่น่าสนใจในตลาด เมื่อกระแสต่างชาติไปทางอินชัวร์เทค ส่วนในประเทศไทยที่ผู้บริโภคก็รู้สึกว่าประกันเป็นเรื่องวุ่นวาย ยุ่งยาก แล้วคนสมัยใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีทันสมัย ดังนั้น วงการประกันภัยในไทยจึงมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปเช่นกัน

Frank.co.th บริษัทประกันออนไลน์ในไทย เผยว่า ในอนาคตบริษัทประกันจะใช้ข้อมูลส่วนตัวในโซเชียลมีเดียมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคิดเบี้ยประกันให้เหมาะสมกับลักษณะนิสัย พื้นที่การขับรถ ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน การใช้รถได้อย่างไรบ้าง ควรมีความคุ้มครองแบบไหน เบี้ยประกันแบบไหน เบี้ยประกันแต่ละคนก็ไม่ควรต้องมีราคาเท่ากัน คนที่ประวัติดี ไม่เคยชน ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุอะไรก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเบี้ยสูงตามคนอื่น 

Frank.co.th ยังบอกว่า ในอนาคตคาดว่าจะใช้เทคโนโลยีโดรนมาช่วยขั้นตอนการเคลมประกัน เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอเจ้าหน้าที่ที่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่ารถติดมาหา บริษัทประกันเพียงแค่ขับโดรนมาถ่ายรูปที่เกิดเหตุแล้วบินกลับ

ถึงแม้ปัจจุบันการทำประกันภัยของประเทศไทยก็ยังคงเป็นรูปแบบของการใช้เอกสาร เว็บก็ใช้แค่สำหรับเปรียบเทียบราคา แต่เชื่อว่าในอนาคตเทคโนโลยีอินชัวร์เทคต่างๆ จะเข้ามามีบทบาทและเปลี่ยนวงการประกันภัยแน่นอน