จากกรณี คนร้ายใจบาปก่อเหตุใช้ของมีคมเฉือนใบหูของแม่วัววัย 15 ปี จนใบหูขาดวิ่นติดกะโหลกเป็นแผลเหวอะหวะ เลือดไหลย้อยน่าสยดสยอง สร้างความเจ็บปวดทนทุกข์ทรมานเป็นที่เวทนากับผู้ที่พบเห็นยิ่งนัก หลังเกิดเหตุปศุสัตว์อำเภอทุ่งใหญ่ และเจ้าหน้าที่คณะสัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตทุ่งใหญ่ เข้าให้ความช่วยเหลือแม่วัว ล้างแผล ใส่ยาป้องกันหนอน ยาทาแผลสด และฉีดยาบำรุงให้แม่วัว ตลอดมาในที่สุดแม่วัวมีอาการแผลติดเชื้ออย่างรุนแรง และได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในเวลาต่อมา ที่น่าเวทนาคือในท้องแม่วัวยังมีลูกอยู่ด้วย 1 ตัว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้าหน้านี้อาการ“อีแดง”เริ่มดีขึ้นตามดับ บาดแผลบริเวณหูทั้งสองข้างที่ถูกคนร้ายใจบาปตัดจนขาดวิ่นถึงหนังหัว เริ่มแห้งแล้ว อย่างไรก็ตามช่วงนี้อากาศแปรปรวน กลางวันแดดร้อนจัด และตอนเย็นมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้อีแดง เริ่มมีอาการป่วย ไม่กินหญ้า ไม่กินน้ำติดต่อกันหลายวัน จนร่างกายเริ่มซูบผอม นอนซมติดพื้น ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ ทำให้เกิดแผลกดทับหลายแห่ง ทำให้แผลที่หูเกิดติดเชื้ออย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าสัตวแพทย์ จะพยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่สุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตอีแดง แม่วัวเหยื่อคนร้ายใจบาปไว้ได้ อีแดงจึงตายลงอย่างน่าเวทนา
นางเสาวลักษณ์ มัฎฐารักษ์ อายุ 29 ปี ภรรยาเจ้าของแม่วัว กล่าวทั้งน้ำตา ว่าตนเลี้ยงแม่วัวตัวดังกล่าวมานานกว่า10ปี โดยซื้อแม่วัวตอนอายุ5ปี มาเลี้ยงเพื่อผสมพันธ์ขายลุกวัว ที่ผ่านมาแม่วัวเกิดลูกมาแล้ว7ตัว ล่าสุดมีลูกวัววัย1ปี1ตัว และลูกวัววัย3ปี1ตัว โดยลูกวัวที่อายุ1ปี ยังไม่หย่านม โดยหลังจากเกิดเหตุแล้วได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ยังไม่มีความคื่บหน้าของตัวผู้ก่อเหตุ
