ชม'ร.ฟ.ท.'จัดประมูลทางคู่ประหยัดงบชาติ8,500ลบ.

ชม'ร.ฟ.ท.'จัดประมูลทางคู่ประหยัดงบชาติ8,500ลบ.

"สามารถ" ชม "ร.ฟ.ท." จัดประมูลทางคู่ ได้ผู้รับเหมากลาง ประหยัดงบชาติ 8,500 ล้านบาท

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว "ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์" ว่าหลังจากที่ได้ทักท้วงการประมูลรถไฟทางคู่ว่ามีความไม่ชอบมาพากล ปรากฏว่าได้มีการยกเลิกการประมูล และปรับแก้ดังนี้ 1.ปรับลดราคากลางลงให้เหมาะสม

2.ปรับแก้ข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (ทีโออาร์) ให้บริษัทผู้รับเหมาขนาดกลางเข้าร่วมประมูลได้ด้วย โดยผลจากการปรับแก้ทำให้การประมูลใหม่มีการแข่งขันกันมากกว่าเดิม โดยเฉพาะโครงการแรก หัวหิน -ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งบริษัทที่ชนะการประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางถึงประมาณ 20% ถึงแม้ว่าโครงการต่อๆ มา ผู้ชนะการประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางไม่มาก แต่ก็ทำให้บริษัทผู้รับเหมาขนาดกลางชนะการประมูลได้บ้าง ต่างจากเดิมที่ผู้ชนะการประมูลเป็นผู้รับเหมาขนาดใหญ่เท่านั้น

ถึงเวลานี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ประมูลเสร็จไปแล้ว 9 โครงการ ปรากฏว่าสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึงจำนวนประมาณ 8,500 ล้านบาท โดยเป็นผลรวมจากการปรับลดราคากลาง และการประมูลต่ำกว่าราคากลาง ในจำนวน 9 โครงการดังกล่าว พบว่ามีผู้รับเหมาขนาดกลางสามารถชนะการประมูลได้ 1 โครงการ และเข้าร่วมเป็นกิจการร่วมค้า กับผู้รับเหมาขนาดใหญ่ได้อีก 1 โครงการ ทำให้ผู้รับเหมาขนาดกลางมีผลงานอย่างเป็นทางการว่าได้ผ่านงานการก่อสร้างรถไฟทางคู่มาแล้ว ซึ่งจะช่วยให้สามารถยกฐานะเป็นผู้รับเหมาขนาดใหญ่ได้ในอนาคตต่อไป ต่างจากเดิมที่ผู้รับเหมาขนาดกลางไม่สามารถเข้าประมูลได้ ต้องรับงานจากผู้รับเหมาขนาดใหญ่ในฐานะผู้รับเหมาย่อย ทำให้ไม่มีผลงานอย่างเป็นทางการ และที่สำคัญ จากการที่ผู้รับเหมาขนาดกลางที่สามารถเข้าร่วมประมูลได้โดยตรง ทำให้ได้รับงานในราคาที่ดีกว่าเป็นผู้รับเหมาย่อยด้วยที่รับงานต่อมาจากรายใหญ่

นายสามารถ ระบุต่อไปว่า อีกไม่นานจะมีการประมูลทางคู่อีกหลายสาย วงเงินกว่า 4 แสนล้านบาท คาดว่าผู้รับเหมาขนาดกลางจะสามารถเข้าร่วมประมูลได้มากขึ้น การแข่งขันก็จะมีมากขึ้น หากผู้รับเหมาขนาดกลางชนะการประมูลได้มากขึ้น ก็จะพัฒนาเป็นผู้รับเหมาขนาดใหญ่ ทำให้มีจำนวนผู้รับเหมาขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 4 - 5 บริษัทเท่านั้น ถึงวันนั้น หวังว่าการแข่งขันก็จะมีมากตามขึ้นด้วย

ผลงานที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้เป็นผลมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เมื่อวันที่ 23 ก.พ. เพื่อปรับปรุงการบริหารงานของ ร.ฟ.ท. และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือซุปเปอร์บอร์ดขึ้นมาเพื่อกำกับ เร่งรัด ติดตาม และตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐที่มีวงเงินตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยให้ความสำคัญกับการประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ทำให้มีการทบทวนราคากลางและจัดทำทีโออาร์ใหม่ให้เกิดความเป็นธรรม เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมาขนาดกลางสามารถเข้าร่วมประมูลได้

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอเชียร์ให้ท่านนายกฯ ประยุทธ์ สั่งการให้ ร.ฟ.ท.รีบเร่งเดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศโดยด่วน