วงจรปิดจับภาพคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และพระสมเด็จเลี่ยมทองอีก 2 องค์ มูลค่าหลายแสนบาท
วันนี้ (16 ก.ย. 60) จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊คP Parewa Pattarawadeeได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับนายศตพล เพงเชื้อ อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 126/1 ถนนกีฬากลาง ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นคุณพ่อ ได้ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบข้างและกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท มูลค่ากว่าหนึ่งแสนบาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์มูลค่าหลายแสนบาท ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าสนามกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้กล้องวงจรปิดหน้าร้านบริการซักรีดหน้าสนามกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมาสามารถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้
นายศตพล เพงเชื้อ ผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน เวลา 19.30 น. ก่อนหน้านั้นฝนตกหนักมาก เมื่อฝนหยุดตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อของบริเวณไม่ไกลจากบ้านมากนัก ขณะกำลังกลับบ้านได้ชะลอรถเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าซอยบ้านบริเวณหน้านามกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ได้มีคนร้ายอายุประมาณ 25-30 ปี 1 คน ลักษณะสูงโปร่ง ผิวขาว ใส่หมวกแก๊ปสีดำ เสื้อยืดสีขาว-แดง กางเกงขายาวสีดำและรองเท้าผ้าใบสีขาว ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ-แดงตีประกบข้างมาทางด้านขวา ทำท่าจะขับรถตัดหน้าและได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทมูลค่ากว่า 1 แสนบาทไป อีกทั้งยังได้พระสมเด็จปรกโพธิ์เลี่ยมกรอบทอง พระสมเด็จบางขุนพรหมเลี่ยมกรอบทองที่ห้อยอยู่กับสร้อยคอทองคำไปด้วย ส่วนพระสมเด็จเกศไชโยเลี่ยมกรอบทองคนร้ายไม่ได้ไปเนื่องจากตอนกระชากพระได้หลุดออกจากสร้อยและหล่นลงพื้นได้รับความเสียหาย
นายศตพลฯ กล่าวว่า เป็นวัตถุมงคลของเก่าแก่ตกทอดจากพ่อแม่ประเมินราคาหลายแสนบาทและในขณะที่คนร้ายกำลังหลบหนี ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปแต่ไม่ทันตนจึงไปแจ้งตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาที่ป้อมตำรวจหน้าโรงแรมพีกาซัส แต่ตำรวจก็สกัดคนร้ายไว้ไม่ทันหลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความที่สภ.เมืองนครราชสีมาเพื่อให้ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเบาะแส คาดว่าคนร้ายน่าจะสะกดรอยตามตนเองตั้งแต่ร้านที่ไปซื้อกับข้าวจนสบโอกาสที่ปลอดคนก็ลงมือกระชากสร้อยที่คอตนเอง และจากการหาข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบว่ามีเหยื่อที่ถูกคนร้ายรูปพรรณคล้ายคนที่ก่อเหตุกับตนเองขับขี่จักรยานยนต์ลักษณะเดียวกันก่อเหตกระชากสร้อยมาแล้ว3ราย ติดต่อกัน3วัน ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา จัดชุดสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้เพราะถือเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายและทำให้ประชาชนในละแวกนี้หวาดผวาโดยทั่วกัน นายศตพลฯกล่าว