ดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวขึ้นทำนิวไฮ

ดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวขึ้นทำนิวไฮ

ดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวขึ้นทำนิวไฮ ขณะหุ้นกลุ่มแบงก์นำตลาด ขณะจับตาประชุมเฟดสัปดาห์หน้า

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (15ก.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้น แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 64.86 จุด ปิดที่ 22.2686.34 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 2,500.23 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 6,448.47 จุด 

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาด ขณะที่หุ้นโบอิ้งทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก โดยหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น 3.7% ในสัปดาห์นี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่มากกว่าคาด และทำให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก.ค.

ดัชนีซีพีไอ ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าว บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นในเดือนมี.ค. และมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอ พุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนส.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8% หลังจากปรับตัวขึ้น 1.7% ในเดือนก.ค.

นักวิเคราะห์ระบุว่า ถึงแม้ดัชนีซีพีไอ ยังคงต่ำกว่าเป้า 2% ของเฟด แต่การฟื้นตัวขึ้นในเดือนส.ค. ก็ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ในไตรมาส 4

ซีเอ็มอี กรุ๊ประบุว่า จากการใช้เครื่องมือเฟดวอทช์ วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นถึง 52.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 19-20 ก.ย. โดยคาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว แต่จะประกาศปรับลดงบดุลจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์