ไลน์ปรับโฉมออฟฟิเชียลแอคเคานท์

ไลน์ปรับโฉมออฟฟิเชียลแอคเคานท์

เปิดตัวออฟฟิเชียลแอคเคานท์โฉมใหม่ เพิ่มฟีเจอร์เลือกกลุ่มตลาดเป้าหมาย-จัดการความสัมพันธ์ลูกค้า ปักธงแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งมีการจัดการฐานข้อมูล ดูแลลูกค้าได้ครบวงจร เชื่ออิทธิพลสูง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายดีขึ้น

นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและสื่อโฆษณา ไลน์ ประเทศไทย กล่าวว่า เปิดตัวออฟฟิเชียลแอคเคานท์โฉมใหม่ โดยเพิ่มฟีเจอร์การเลือกกลุ่มตลาดเป้าหมาย (Targeting) เพื่อให้ผู้ใช้หรือลูกค้าได้รับข้อมูลที่ตรงกับความต้องการสูงสุด

รวมไปถึง ฟีเจอร์การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (Business Connect for CRM ; BCRM) เพื่อจัดการฐานข้อมูลผู้ใช้ พร้อมวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและได้รับผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

เขากล่าวว่า ฟีเจอร์ใหม่อย่างทาร์เก็ตติ้งสามารถเข้าถึงความสนใจลูกค้าได้แบบเฉพาะเจาะจง เลือกได้ทั้งเพศ อายุ ระบบปฏิบัติการที่ใช้ รวมถึงระยะเวลาในการเป็นเพื่อนกับแบรนด์ จากที่ได้ทดลองตลาดกับลูกค้าบางรายผลปรากฎว่า ประสิทธิภาพการเข้าถึงเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า

“ไลน์เชื่อว่า การปรับโฉมการให้บริการด้วย 2 ฟีเจอร์ใหม่นี้จะเข้ามาพลิกโฉมให้กับการตลาดและการโฆษณาในประเทศไทย”

ปัจจุบัน มีธุรกิจองค์กรและแบรนด์ขนาดใหญ่ในไทยใช้งานออฟฟิเชียลแอคเคานท์เกือบ 200 ราย ครอบคลุมทุกแบรนด์หลักในตลาด คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จำนวนจะใกล้เคียงเดิม แต่หากมีความต้องการใช้งานหรือลูกค้าเพิ่มขึ้นก็พร้อมขยายทีม

ขณะที่ อีกหนึ่งเครื่องมือการตลาดที่สำคัญคือ สปอนเซอร์สติกเกอร์ โดยล่าสุด การสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 69,000 คน เผยว่า ผู้ใช้งานไลน์กว่า 80% สนใจสปอนเซอร์สติกเกอร์ ที่ผ่านมาผู้ใช้งานไลน์เกินครึ่งรู้จักแบรนด์และจดจำแบรนด์ได้มากขึ้นผ่านสปอนเซอร์ สติกเกอร์ โดยมีผู้ใช้มากกว่า 40% เข้าร่วมกิจกรรมกับแบรนด์มากขึ้น และผู้ใช้อีกมากกว่า 25% สนใจที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ และบริการจากแบรนด์นั้นๆ เพิ่มมากขึ้น

ไลน์เผยว่า ยอดดาวน์โหลดสปอนเซอร์สติกเกอร์ในปี 2559 สูงถึง 620 ล้านดาวน์โหลด จนถึงปัจจุบันมีสปอนเซอร์สติกเกอร์ออกมากว่า 200 เซ็ต ในมากกว่า 20 อุตสาหกรรม

สำหรับ 5 ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ใช้งานไลน์ดาวน์โหลดสติกเกอร์ของแบรนด์ ประกอบไปด้วย 1.สติกเกอร์มีคอนเทนต์อินเทรนด์ ใช้ได้ทุกวัน 2.เป็นสติกเกอร์เคลื่อนไหว และมีเสียง 3.ใช้ได้ทั้งชายและหญิง 4.ใช้โลโก้ของแบรนด์อย่างพอประมาณ 5. สติกเกอร์เซ็ต 16 ตัว จะได้รับความนิยมสูงสุด

ข้อมูลโดยสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ระบุว่า การซื้อโฆษณาบนสื่อดิจิทัลยังเป็นสิ่งเดียวที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่ออนไลน์ได้กลายเป็นศูนย์กลางของผู้บริโภคและแบรนด์ต่างๆ ในการสื่อสารข้อมูล โดยปี 2559 มูลค่าการซื้อสื่อออนไลน์เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 17% หรือเป็นมูลค่า 9,447 ล้านบาท และคาดว่าปี 2560 จะเพิ่มขึ้นถึง 24% หรือสูงถึง 1.1 หมื่นล้านบาท อีกทางหนึ่งนีลเส็นประเมินไว้ด้วยว่ามูลค่าการซื้อสื่อโฆษณาอื่นๆ อาจลดลงถึง 11.3%