โรแมนติกกลางหุบเขา ฮิลล์โบโร ดิ อิงลีชคันทรีเฮาส์

การได้ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ จิบกาแฟหอมกรุ่น ชมบรรยากาศอบอุ่นยามเช้าจากห้องนอน ไม่ได้เป็นฝันหวานๆ ของ คุณแอ๊นท์ - ธารินี ธารชลานุกิจ ภรรยาคนสวยของ ณรัฐพงศ์ ธารชลานุกิจ เจ้าของโรงแรมสุดโรแมนติก  ฮิลล์โบโร ดิ อิงลีชคันทรีเฮาส์ โฮเต็ลแอนด์เลชเชอร์ (Hillsborough The English Country House Hotel & Leisure) ในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เท่านั้น แต่ยังเป็นความฝันของหลายคนที่จะได้พักกายพักใจท่ามกลางความสวยงามของสถาปัตยกรรมและธรรมชาติที่อยู่รายรอบ

"ผมกับคุณแอ๊นท์เป็นคนกรุงเทพ แล้วคุณแอ๊นท์อยากมีบ้านตากอากาศที่เชียงใหม่ ฝันถึงบ้านสีขาวกลางหุบเขาสีเขียวๆ เขาหลงรักเชียงใหม่ เราก็เลยมาซื้อที่กัน แต่พอจะสร้างก็มาคิดว่าถ้าทำบ้านปีหนึ่งคงมาได้สักครั้งสองครั้ง ก็เลยขยับขยายเป็นโรงแรมดีกว่า“ คุณหมี ณรัฐพงศ์ เล่าถึงความเป็นมา โดยมีคุณแอ๊นท์ เสริมว่า ”ตอนแรกอยากทำเป็นบ้าน แต่ว่าครอบครัวเรามีแค่ 3 คน พ่อแม่ลูก อยากมีเพื่อนอยากมีคนมาพูดคุย ก็เลยทำโรงแรมค่ะ"

แม้จะเปิดให้บริการไม่ถึง 1 ปี คือเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2559 แต่เสียงสะท้อนจากแขกที่มาพักนั้นถือว่าดีทีเดียว

“เขาชอบงานสถาปัตย์ของเรา ชอบการดีไซน์ การออกแบบ บอกว่าอยู่แล้วสบายเหมือนบ้าน ใส่ใจในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ เตียง ทุกอย่างในห้อง”

ในอาณาบริเวณของฮิลล์โบโร ประกอบไปด้วยวิลล่าทั้งหมด 3 หลัง คือ Beatrix, Peter และ Andrew มีห้องพักที่เปิดให้บริการ 10 ห้อง แบ่งเป็น Deluxe Suite, Grand Deluxe Suite และ Luxury Suite ห้องนอนแต่ละห้องจะตกแต่งและตั้งชื่อตามดอกกุหลาบอังกฤษ ภายในสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์เครื่องใช้ครบครัน ห้องน้ำมีทั้งส่วนที่เป็นชาวเวอร์และอ่างอาบน้ำ นอกจากนี้ยังมีหมีฮิลล์โบโรและของตกแต่งน่ารักๆ เติมความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน

"เราไปพักมาหลายที่ บางที่เรื่องง่ายๆ อย่างที่แขวนผ้าเช็ดตัวก็ลำบาก ของเราก็จะเตรียมไว้เยอะ" คุณหมี บอกว่าคอนเซ็ปต์ในการตกแต่งของที่นี่คือ "สวย อยู่สบาย ใช้งานได้จริง สำหรับของตกแต่งส่วนหนึ่งก็เป็นของสะสมของคุณแอ๊นท์ อย่างเป็ดได้มาจากทั่วโลก รวมๆ กัน 800 กว่าตัว"

ไม่ใช่เฉพาะภายในห้องพักเท่านั้นที่พิถีพิถันกับการตกแต่งให้ได้บรรยากาศแบบชนบทอังกฤษ ห้องรับแขก ห้องอาหาร หรือแม้แต่สวนก็ถูกออกแบบให้สอดคล้องกัน

"โรงแรมของเราเป็นแบบ small luxury ห้องอาจจะไม่มาก แต่ออกแบบให้อยู่สบายเหมือนบ้าน เหมือนต้นแบบที่อังกฤษ บ้านเก่าๆ ที่สวยๆ เขาเอามาทำโรงแรม เพราะฉะนั้นเราออกแบบให้เป็นบ้านเลย แต่เอาบ้านมาทำเป็นโรงแรม เรามีเตาผิงจริงอยู่ 4 ที่ ส่วนภาพเขียน ชื่อห้อง หมายเลขห้อง ที่เป็นเดคูพาจ (Decoupage) คุณแอ๊นท์เป็นคนทำเอง"

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ อาหารเช้าแบบ full english breakfast จัดเต็มทั้งไข่ดาว แฮม เบคอน ไส้กรอก สลัด ขนมปัง รับรองว่าอิ่มแน่นอน นอกจากนี้ห้องอาหาร Grandma’s Kitchen Restaurant ยังขึ้นชื่อเรื่องสเต๊ก และอาหารประจำชาติอังกฤษอย่าง fish and chips

“สเต็กซี่โครงฮิลล์โบโรเป็นซิกเนเจอร์ของเรา แล้วก็มีฟิชแอนด์ชิพ ที่เราดัดแปลงซอสให้คนไทยทานได้ง่ายขึ้นไม่เลี่ยนมาก ร้านอาหารของเราก็เลยจะมีทั้งแขกที่พักและที่มาทานอาหารโดยเฉพาะ” 

อิ่มท้องแล้วจะออกไปเดินเล่นด้านหน้าโรงแรมชมสวนสวยสไตล์อังกฤษที่มีสุนัข แมว และเป็ด เป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักก็ได้ หรือจะเข้าคลาสทำขนม ว่ายน้ำเบาๆ ในสระของโรงแรมก็ช่วยผ่อนคลายได้ดี แต่ถ้าใครอยากออกแรงมากหน่อยจะเลือกปั่นจักรยาน หรือเดินขึ้นเขาไปชมวิวทุ่งนาและหมู่บ้านก็น่าสนใจ

"เส้นทางtrekking ผมเองเป็นคนบุกเบิก เพราะชอบออกกำลังกาย พอมาอยู่ที่นี่ตอนเช้าทำอะไรดี ก็ถามชาวบ้าน เขาบอกว่ามีเส้นทางที่เดินขึ้นไปได้ถึงบ้านม้งดอยปุยประมาณ 7 กิโลเมตร ตอนเช้าแขกที่มาพักก็เดินขึ้นไปได้ เรามีแผนที่ให้ หรือถ้าผมอยู่ก็พาไปได้ แต่คงไม่ถึงดอยปุย เพราะต้องข้ามภูเขาไปอีก เราก็ไปแค่ 2 กิโลเมตร กลับ 2 กิโลเมตร"

สำหรับคอกาแฟก็ไม่ต้องกังวล คาเฟ่ Peter & Son คอยให้บริการคาเฟอีนตามรสนิยม นั่งชิลล์กันจนพอใจแล้วหากต้องการเปลี่ยนบรรยากาศออกไปท่องเที่ยว ใกล้ๆ กันก็มีสวนกุหลาบหลวง โครงการห้วยผักไผ่ ส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ให้ได้อ้อยอิ่งชมดอกกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ พร้อมชิมเมนูจากผักผลไม้ในโครงการฯอย่าง อะโวคาโด เสาวรส กวางตุ้ง ส่วนในช่วงฤดูหนาวเลยขึ้นไปทางอำเภอสะเมิง มีไร่สตรอว์เบอรี่ให้แวะชมมากมาย แต่ถ้าไม่อยากออกไปไหนที่ฮิลล์โบโรก็เตรียมปลูกสตรอว์เบอรี่ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย

ถือว่าตอบทุกโจทย์สำหรับการใช้เวลาในช่วงวันหยุดเพื่อรีเฟรชร่างกายให้พร้อมกลับไปทำภารกิจในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญยังสะดวกสบายด้วยการบริการและการเดินทางที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก โดยอยู่ห่างจากสนามบินเชียงใหม่เพียง 25 กิโลเมตร

“ที่นี่เงียบสงบ สภาพแวดล้อมดี มีป่าเขา ลำธาร อากาศในฤดูหนาวอุณภูมิลดลงถึง 4 องศา ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวที่เชียงใหม่ก็อยากให้ทุกคนได้มาพักในบรรยากาศแบบนี้บ้าง” คุณหมีและคุณแอ๊นท์ กล่าวเชิญชวน

จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถเปลี่ยนวันหยุดอันแสนสั้นให้เป็นช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายและได้เติมเต็มความสุขอย่างแท้จริง