‘Hi school’ ปิ่นโตสร้างเมือง แบ่งปัน สู่ เด็กน้อย

‘Hi school’ ปิ่นโตสร้างเมือง แบ่งปัน สู่ เด็กน้อย

“Hi School”ธุรกิจเพื่อสังคมของอดีตเด็กกำพร้า'อภิชาติ จันทร์ทองแท้'ผู้ได้รับทุนการศึกษาจากผู้ใหญ่ใจดี จึงตอบแทนสังคมด้วยการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารปิ่นโตเดลิเวอรี่ กำไรผันเป็นทุนการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กที่ยังขัดสน

“อภิชาติ จันทร์ทองแท้” ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นสะสมความดีให้โลกจารึกก่อนจากไป มากกว่าสะสมเงินทองที่เขาเชื่อว่า ที่สุดแล้วไม่สุขเท่าเราทำดี

 อดีตเขาคือเด็กกำพร้า ที่เอาตัวรอดทางการศึกษามาได้ เพราะได้รับ“ทุนการศึกษา”จากผู้ใหญ่ใจดี จนเรียนจบออกมาได้งานที่ดี เลี้ยงตัวเองได้ ปัจจุบันเขาคือผู้บริหารบริษัทตรวจสอบอาคาร วิทยากรด้านฝึกอบรมพนักงาน ที่ปรึกษาธุรกิจ 

รวมถึงการเป็นผู้ก่อตั้ง "ธุรกิจเพื่อสังคม Hi School” แอพลิเคชั่น รับดีลกับร้านส่งอาหาร เพื่อส่งอาหารสด ผลไม้ สินค้าเกษตร รวมถึงอาหารดี อาหารคลีน และอาหารพิเศษสำหรับคนรักสุขภาพ หรือผู้สูงอายุ ข้าวไรซ์บอร์รี่ ขนมว่างพักเบรคในงานประชุมสัมมนา เป็นเซ็ตปิ่นโต ให้กับลูกค้าในกลุ่มต่างๆ โดยนำกำไรที่ได้ส่วนหนึ่งไปพัฒนาการศึกษาให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก 

โดยหลักการของแอพลิเคชั่น จะดึง 5 พันธมิตรเข้าร่วม นอกจากจะเป็นการแบ่งปันโอกาสการศึกษาให้น้องนักเรียนแล้ว ยังได้ประโยชน์กับภาคธุรกิจ ตั้งแต่

1.ลูกค้าคนสั่งอาหาร (ส่วนใหญ่เป็นออฟฟิสในนิคมอุตสาหกรรม) ได้ทานอาหารดี คลีน ทางเลือกในการรับประทานอาหารใหม่ แทนอาหารในโรงงานซ้ำๆ แล้วยังได้บุญ

2.ร้านค้า ได้เพิ่มโอกาสขายของผ่านออนไลน์ และเพิ่มเวลาขายจากช่วงที่ยุ่งสุดที่มีเพียงเที่ยงและเย็น 

3.เครือข่ายโรงเรียนขนาดเล็ก ที่จะหักกำไรจากธุรกิจ 5-10 % ไปให้น้องทุกเดือน 

4.การจ้างงานเพิ่ม ในน้องๆแอดมินที่ดูแลแฟนเพจ ไลน์ โซเชียลมิเดีย และแอพพลิเคชั่น เป็นน้องๆพิการ รวมถึงมอเตอร์ไซต์รับจ้าง เครือข่ายส่งของ ก็จะมีงานนอกเหนือจากช่วงเวลาเดินทางของมนุษย์เงินเดือน ในช่วงกลางวันก็สามารถส่งอาหารเดลิเวอร์รี่  

และ5.ชุมชนเกษตรในจังหวัดสมุทรสาคร ที่จะเพิ่มรายได้ ช่องทางการจัดจำหน่าย

นอกจาก 5 พันธมิตรธุรกิจแล้ว ยังมีจิ๊กซอว์จากหน่วยงานอื่นๆคอยให้การสนับสนุน ได้แก่ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดสมุทรสงคราม สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด และเกษตรจังหวัด มาร่วมลงนามความเข้าใจ (MOU) เชื่อมเครือข่ายเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันสร้างจังหวัดสมุทรสาคร ให้รายล้อมด้วยสภาพแวดล้อมดี สังคมดี แบ่งปันโอกาสดีๆ ด้านการศึกษาให้น้องๆ

“นี่คือโมเดลที่คิดและฝันไว้ ทำแอพดีลกับร้านส่งอาหารให้ทุกส่วน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ประโยชน์ร่วมกัน ได้ทำบุญแล้วยังได้ทานอาหารดี อาหารคลีน เพื่อสุขภาพ”

อภิชาติ ยังเล่าถึงการดำเนินธุรกิจว่า เริ่มต้นด้วยเงินลงทุน 2 แสนบาทในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นในเดือนส.ค.2559  และเปิดตัวธุรกิจจริงจังในวันที่ 14 ก.พ.2560 ใช้เวลาดำเนินการเพียง 8 เดือนก็คืนทุนแล้ว ที่เหลือเมื่อธุรกิจเติบโตก็จะเป็นกำไรคืนสู่สังคม และเด็กๆแบบไม่มีวันจบตราบที่ธุรกิจยังดำเนินอยู่

โดยปัจจุบันมีร้านค้าเข้ามาอยู่ในแอพ 12 ราย เครือข่ายเกษตรกร 7 ราย มอเตอร์ไซต์รับจ้าง 12 ราย ที่ผ่านมายังนำกำไรไปเป็นทุนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กในเครือแล้ว 25 แห่ง จากยอดคำสั่งซื้อประมาณ 80 บิลต่อวัน เฉลี่ยมียอดสัง่อาหารบิลละ 200 บาท

อภิชาติ ยังบอกด้วยว่า หากโมเดลประสบความสำเร็จ ในอนาคตจะพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมในรูปแบบแฟรนไชส์ธุรกิจเพื่อสังคม Hi School ให้กระจายไปยังจังหวัดอื่น ขอเพียงให้มีกลุ่มคนพร้อมที่จะเข้าร่วมเป็นเครือข่ายรับองค์ความรู้ไปพัฒนาต่อเชื่อมเครือข่ายร้านค้าในจังหวัดของตน โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเงินไปพัฒนาการศึกษาในจังหวัดเช่นเดียวกันกับตัวเขา

“ธุรกิจเพื่อสังคมนี้ตอบโจทย์ทุกด้านที่เราต้องการ พัฒนาธุรกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เป็นการชักชวนผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดให้ร่วมกันสร้างเมืองที่ดี”

พลังความคิดดีๆ ของอภิชาติไม่หยุดแค่เพียงธุรกิจกับแอพ เขายังคิดแคมเปญส่งต่ออาหารดีและแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับคนทั่วไป เชิญชวนให้คนเข้ามาสั่งอาหารเมนูพิเศษ มีทั้งอาหารจากวัตถุดิบทางการเกษตรดีๆ ออร์แกนิก ปลอดภัย อาหารคลีน อาหารเมนูเพื่อสุขภาพให้คนป่วย ให้ผู้สูงอายุ หรือคนที่รัก โดยคนสั่งอาหารจะเป็นผู้ส่งความปรารถนาดีให้กับคนรับ แต่มีข้อแม้ว่าคนรับต้องสั่งต่อให้คนอื่น เป็นการกระตุ้นให้คนลุกขึ้นมานึกถึงคนอื่น พร้อมกับร่วมกันส่งต่อบุญทางการศึกษาให้น้องๆนักเรียน

+++++

พลังแห่งการ“แบ่งปัน”

อภิชาติ ยอมรับว่า การที่เขาได้รับทุนการศึกษาในวัยเยาว์ ทำให้รู้ซึ้งถึงคำว่า “พลังแบ่งปัน” (Sharing) จึงหวังจะสร้างโอกาสให้ผู้อื่นบ้างในภายภาคหน้า

ทุกครั้งที่ชายหนุ่ม ปรากฏตัวผ่านสื่อในนามธุรกิจเพื่อสังคม “Hi School” เขาจะสวมเสื้อสูทสีเหลือง ใส่หมวกสีเหลือง ซึ่งเป็นความตั้งใจจะให้คนจดจำแบรนด์ ที่เป็นเหมือนแมสคอตของ “Hi School” ส่งปิ่นโตอาหารเจ้าเด็ดในจังหวัดสมุทรสาคร ที่มาพร้อมความสนุกสนาน สดใส และมิตรภาพให้กัน

“คนเราอายุเฉลี่ยไม่เกิน 80 ปี อยู่เกินครึ่งก็ถือว่ากำไร หากทำให้ใครพูดถึงเราเมื่อจากไปยิ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำเพื่อตัวเองก็อยู่แค่สิ้นลม แต่ทำเพื่อสังคม แม้สิ้นลมชื่อก็ยังอยู่ หากคนไทยทุกคนทำความดีคนละหนึ่งอย่าง เพื่อถวายในหลวงร.9 ประเทศไทยจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน "

เขายังเล่าว่า ก่อนจะเริ่มต้นธุรกิจเพื่อสังคม ที่ผ่านมาได้ทำงานเพื่อสังคมในนามส่วนตัวมาโดยตลอด อาทิ เป็นนายกสมาคมผู้ปกครอง ครู ศิษย์เก่า โรงเรียนอนุบาลสมุทรสาคร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โรงเรียนวัดอ้อมน้อย และประธานชมรมบริหารงานบุคคลนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร

บ่อยครั้งที่เขาเป็นส่วนหนึ่งในการรวบรวมทุนทรัพย์จากโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร และภาคธุรกิจ ไปบริจาคเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้โรงเรียนขนาดเล็กอยู่ทุกปี แต่จะไปยื่นซองขอบริจาคตามโรงงานทุกปีก็ดูจะเป็นสิ่งไม่ยั่งยืน เป็นเป็นทุนแบบให้เปล่า

จึงเป็นที่มาของการคิดและศึกษาปั้นโมเดลธุรกิจเพื่อสังคมในชื่อ “Hi School” หรือ “สวัสดีโรงเรียน” แอพพลิเคชั่นปั้นธุรกิจเพื่อสังคม เป็นทุนการศึกษาให้โรงเรียนขนาดเล็กที่ยากไร้ในจังหวัด