เดกซ์ฯปั้น‘คอนเทนท์แพลตฟอร์ม’บูมคาแรคเตอร์การ์ตูน

นิรดา ศิริคชาภรณ์ ผู้อำนวยการแผนกบริหารลิขสิทธิ์ บริษัท เดกซ์ [ดรีม เอกซ์เพรส] จำกัด กล่าวว่า คาแรคเตอร์การ์ตูนญี่ปุ่น จัดเป็นกลุ่ม “ทรงพลังทางการตลาด” โดยเฉพาะจากนี้ต่อเนื่องถึงปี 2020 ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ซึ่งในฐานะประเทศวัฒนธรรมการ์ตูน ได้ประกาศนำคาแรคเตอร์ “วันพีซ” มาเป็นหนึ่งในฑูตวัฒนธรรม ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความรู้จัก และการจดจำของเสน่ห์ใน “คาแรคเตอร์การ์ตูน” ในไทยและทั่วโลกมากขึ้น ถือเป็นโอกาสธุรกิจที่สำคัญ

เดกซ์ [ดรีม เอกซ์เพรส]  เป็นตัวแทนผู้ดูแลลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ญี่ปุ่นในประเทศไทยรายใหญ่สุด มีคาแรคเตอร์ที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของสินค้าหรือบริการต่างๆ ที่ต้องการนำคาแรคเตอร์มาใช้ในการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ทั้งด้าน ไลเซนซิ่ง (Licensing) เมอร์เชนไดซิ่ง (Merchandising) และ อีเว้นท์ (Event) โดย คาแรคเตอร์หลักที่เป็น “เรือธง” หรือ ท็อปฮิตของญี่ปุ่น ได้แก่ มาสค์ไรเดอร์ (ไอ้มดแดง) อุลตร้าแมน กันดั้ม วันพีซ และอื่นๆ  เรียกว่า ครอบคลุมฐานลูกค้าทุกกลุ่ม 

“ตลาดคาแรคเตอร์การ์ตูนลิขสิทธิ์ญี่ปุ่นในไทยอนาคตสดใสมาก แต่โลกที่หมุนเร็วขึ้น ดิจิทัลมาเร็ว เดกซ์ฯ ต้องปรับกลยุทธ์ให้ทันเทรนด์”

ทั้งนี้ เดกซ์ฯ ไม่เป็นเพียงผู้ให้บริการคอนเทนท์อย่างเดียว แต่กำลังวางแผนทำ “คอนเทนท์ แพลตฟอร์ม” รูปแบบใหม่ ออกอากาศการ์ตูนสตรีมมิ่ง ดูผ่านโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถ “ดูได้ทุกเรื่อง-ทุกสถานที่-ทุกเวลา” รองรับไลฟ์สไตล์ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลมากขึ้น เตรียมเปิดตัวเดือน พ.ย.นี้ เชื่อว่าจะเข้ามาพลิกโฉมวงการเลยทีเดียว

“จากเดิมดูกันในยูทูปซึ่งมีเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ ขณะที่การติดตามแก้ปัญหาไม่ง่าย เราอยู่เฉยไม่ได้ก็ต้องลุกขึ้นมาทำอะไร” 

เดกซ์ฯ กำลังพิจารณาขยายธุรกิจต่อยอดจากลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ในมือ ซึ่งแต่ละคาแรคเตอร์มีกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่แตกต่างกัน มีพฤติกรรมการบริโภคคาแรคเตอร์และความต้องการที่ไม่เหมือนกัน การต่อยอดธุรกิจจึงต้องมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันให้เหมาะสมและเข้าถึงความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญคือการวางฐานสร้างความรู้สึกผูกพันไปกับคาแรคเตอร์นั้นๆ

ปัจจุบันฐานลูกค้าหลัก เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ที่มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์บนช่องทางออนไลน์ต่างๆ ชื่นชอบความสนุกในคาแรคเตอร์ อนิเมชั่น สเต็ปต่อไป มุ่งขยายฐานกลุ่มครอบครัวที่เป็น “พ่อแม่ยุคใหม่” ซึ่งมีชีวิตส่วนหนึ่งอยู่บนโซเชียลมีเดีย ดังนั้น กระแสข่าวหรือการทำตลาดในญี่ปุ่นจะถูกแปลออกสู่ตลาดเมืองไทยในทันที  รวมทั้งกลุ่มเด็กฐานหลักในมือ จะขยายให้ใหญ่ขึ้น พร้อมสร้างความภักดีต่อแบรนด์นำสู่การเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว

 เดกซ์ฯ มีฐานแฟนคลับระดับครีม อายุ 30-50 ปี ราว 3-4 หมื่นราย ขณะที่ตลาดระดับแมส ในกลุ่มประชากรเด็กไทย 4-6 ล้านคน  เชื่อว่าเดกซ์ฯ ครองสัดส่วน 60-70% โดยแต่ละปี บริษัทจัดสรรงบประมาณ 100 ล้านบาท ทำการตลาดเชิงรุก โดยคาแรคเตอร์หลัก ใช้งบ 10-12 ล้านบาทต่อตัวในการสื่อสารและทำกิจกรรมเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย 

เดือน ก.ย.นี้ จะมี มาสค์ไรเดอร์เอ็กเซด [Ex-Aid]  ซึ่งนำเข้าฉายทันทีหลังออกอากาศจบที่ญี่ปุ่น ด้วยนโยบายการตลาดระดับโลกที่ต้องการให้เกิดกระแสนิยมในช่วงเดียวกันทั่วโลก ในไทยกำหนดฉายผ่านช่อง 23 เวิร์คพอยท์และช่องทางดิจิทัลชั้นนำ 

ความนิยมของ มาสค์ไรเดอร์ ในไทยมีมานาน 45 ปี  ซึ่งการเปิดตัวของ มาสค์ไรเดอร์เอ็กเซด ในญี่ปุ่นปลายปีที่แล้ว สร้างกระแสนิยมดีเกินคาด ด้วยคาแรคเตอร์สีสันสดใสแหวกแนวกับสีชมพู Shocking Pink และเอกลักษณ์ของเกมยุคแฟมมิคอม (ปี1983) คอนเซปต์ คุณหมอเกมเมอร์ ที่เสริมสร้างความเข้าใจใหม่ของความจริงจังในอาชีพหมอ การเล่นเกมส์ ฮีโร่ ที่ไปด้วยกันได้อย่างดี ทำให้เกิดเป็นฮีโร่ล้ำไม่ซ้ำใคร ถือเป็นทีวีซีรีส์สมบูรณ์แบบทั้งด้านบทประพันธ์ การดำเนินเรื่อง และความสัมพันธ์ด้านตัวละคร ในไทยวางงบโปรโมทมาสค์ไรเดอร์เอ็กเซด 15 ล้านบาท

“คาแรคเตอร์บูม ลูกค้า (ไลเซนซิ่ง-เมอร์เชนไดซิ่ง) ก็ขายของได้ง่ายขึ้น เวลาฝั่งญี่ปุ่นมีหนังใหม่จะมีงบการตลาดจากต่างประะเทศโปรโมทช่วงหนังเข้า 1-3 เดือน สำหรับเดกซ์ฯ เวลานำเข้ามาผ่านทีวีซีีรีส์ เรื่องล่าสุดนี้มี 45 ตอน โปรโมทล่วงหน้า 1 เดือน และทำการตลาดต่อเนื่อง 1 ปีเต็ม จากนั้นไปออกแซทเทิลไลท์วนอีก 1 ปี”

กระบวนการเหล่านี้จะส่งเสริมธุรกิจหนังสือ เมอร์เชนไดซิ่งต่างๆ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า “คู่ค้า” ขายของได้ง่ายขึ้นและขายได้ต่อเนื่องในช่วง 2 ปีเต็ม เป็น “จุดแข็ง” ของธุรกิจ และ “ความคุ้มค่า” ในการใช้ลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ของฝั่งญี่ปุ่น  เพราะเมื่อลูกค้าซื้อลิขสิทธิ์จะมีระยะเวลาของการผลิต ดีลกับช่องทางจำหน่าย การระบายสินค้า

นิรดา ย้ำว่า เดกซ์ฯ อยู่กับคาแรคเตอร์การ์ตูนญี่ปุ่นก้าวสู่ปีที่ 18 ธุรกิจค่อนข้างเสถียร ท่ามกลางผู้เล่นรายอื่นค่อยๆ เล็กลง และหายไป กลายเป็นโอกาสทอง!!  ซึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรง คือ “เกม” บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้ามาทำตลาดปีหน้า เสริมความครบวงจรของเดกซ์ฯ ในฐานะผู้ดูแลลิขสิทธิ์ทั้งหมด นอกเหนือจากการขยายธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซครบวงจรทั้งโลกออฟไลน์และออนไลน์

 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทเติบโตเฉลี่ย 12-15% ปีนี้คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 14%