รวบหนุ่มญี่ปุ่นลักลอบขนสุนัขจิ้งจอก-หนูจิงโจ้ ออกนอกประเทศ

รวบหนุ่มญี่ปุ่นลักลอบขนสุนัขจิ้งจอก-หนูจิงโจ้ ออกนอกประเทศ

ตำรวจสุวรรณภูมิรวบตัวชายชาวญี่ปุ่น ลักลอบขนสุนัขจิ้งจอก และหนูจิงโจ้ เตรียมออกนอกประเทศ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 กันยายน 2560 ขณะที่ พ.ต.ท.กวีรัตนะ บังคมธรรม รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ในโรงพัก เจ้าหน้าที่ศุลกากร ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันคุมตัวชายชาวญี่ปุ่น อายุ 53 ปี พร้อมด้วยของกลางคือ Fennec Fox หรือลูกสุนัขจิ้งจอกทะเลทราย จำนวน 2 ตัว และหนูจิงโจ้ จำนวน 4 ตัว ที่อยู่กรงเหล็กซี่ลวดเล็ก 2 กรง เป็นกรงพลาสติกขนาดเล็ก 1 กรง ซุกซ่อนมาในกระเป๋าสัมภาระทรงแข็ง สีเทาดำ ถูกคุมตัวมาส่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี ในข้อกล่าวหาว่า พยายามลักลอบนำของต้องห้าม ต้องกำจัดตาม มาตร27 พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ประกอบมาตรา16,17พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่9 ) อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) และพยายามส่งออกสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม มาตร3 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ ฯ และพยายามส่งออกสัตว์ป่าออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า และพยายามขนส่งสัตว์ป่าโดยไม่จัดสวัสดิภาพของสัตว์ให้เหมาะสม (ใส่สัตว์ลงในกระเป๋าสัมภาระที่มีอากาศไม่เพียงพอ) หลังถูกจับกุมได้พร้อมของกลางเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

ทั้งนี้สืบเนื่องจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันบูรณาการป้องกันการลักลอบนำเข้าหรือนำออกสัตว์ป่าสงวนตามอนุสัญญาไซเตส ประจำอยู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย เจ้าหน้าทีศุลกากร เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่า ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองของศุลกากรว่า จะขบวนการกองทัพมดที่ปะปนมากับนักท่องเที่ยวเข้าลักลอบขนสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธ์ ออกจากประเทศไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น จึงได้เฝ้าระวัง และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้พบกระเป๋าสัมภาระทรงแข็งสีเทาดำต้องสงสัย โดยในขณะเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้นำกระเป๋าสัมภาระใบดังกล่าวซึ่งระบุชื่อเจ้าของกระเป๋าชื่อเป็นชาวญี่ปุ่น ที่กำลังจะเดินทางออกจากประเทศไทยไ ปยังประเทศญี่ปุ่นด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 682 ปลายทางสนามบินฮาเนดะ เข้าเครื่องเอ็กซเรย์ได้พบมีสิ่งมีชีวิตซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าใบดังกล่าว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่สายการบินดังกล่าวให้พาตัวเจ้าของกระเป๋าสัมภาระใบดังกล่าวให้มาร่วมตรวจสอบสิ่งของภายใน

จึงได้ทำการเปิดกระเป๋าเพื่อตรวจสอบ พบว่า ภายในมีซองขนมขบเคี้ยวอยู่จำนวนมากที่ปกปิดกรงขนาดเล็กใส่สัตว์ป่าทั้ง 6 ตัว ที่ซุกซ่อนมาในกระเป๋าโดยใช้เสื้อผ้าคลุมทับไว้ และมีก้อนน้ำแข็งใส่ไว้เพื่อทำความเย็นให้กับสัตว์ป่าที่ถูกซุกซ่อนมา จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบ พบว่าสัตว์ป่าทั้งหมดเป็นสัตย์ป่าที่ใกล้สูญพันธ์ และเป็นสัตย์ป่าคุ้มครอง

จากการสอบสวนชายคนดังกล่าวระบุว่า ตนเองได้สั่งซื้อสัตว์ป่าชนิดดังกล่าวผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ท และนัดรับของขณะที่ตนเองเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย เพื่อที่จะนำกลับไปเลี้ยงที่ประเทศญี่ปุ่น โดยไม่ทราบว่าในเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การที่ว่าจะนำไปเลี้ยงจริง เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีขบวนการลักลอบขนสัตว์ป่าสงวนหรือใกล้สูญพันธ์ ออกไปขายยังต่างประเทศ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาหมายต่อไป