Daily Market Outlook (8 ก.ย.60)

Daily Market Outlook (8 ก.ย.60)

อารมณ์ตลาดเปราะบาง

คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวออกด้านข้างวันนี้ อารมณ์ต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของโลกยังเปราะบาง จากความกังวลว่าผลกระทบของพายุเฮอริเคนเออร์มา และฮาร์วีย์ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐและผลประกอบการบริษัทในสหรัฐชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงทางการเมืองในสหรัฐลดลงเล็กน้อยหลังจากวุฒิสภาสหรัฐลงมติเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ และขยายความสามารถในการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลออกไปจนถึง 8 ธ.ค. พ้นเส้นตาย 29 ก.ย. ไปชั่วคราว ร่างกฎหมายนี้จะไปลงมติสภาร่วมกับ ส.ส. อีกครั้งต้องรอดู ภายในประเทศความเชื่อมั่น SME เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน จากการปรับตัวดีขึ้นของภาคเกษตรและการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง แต่มาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยวยังไม่มีความคืบหน้า

 

หุ้นเด่นวันนี้: TISCO(ราคาปิด 74.75 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 84.00 บาท)

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ เนื่องจากเราคาดผลการดำเนินงานของธนาคารจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี หนุนโดยระดับการตั้งสำรองที่ลดลงและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่น่าจะยังอยู่ในระดับสูง โดยเราคาดการณ์กำไรสุทธิของ TISCO ในครึ่งปีหลังจะเติบโต 20% YoYอยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านบาท นอกจากนี้ เราชอบธนาคารจากการที่มีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งมาก โดยที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage ratio) อยู่สูงถึง 172.4% ในไตรมาส 2/60 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 138.0% อีกทั้ง เราประมาณการว่าอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ของธนาคารในปี 60 จะอยู่ที่ 18.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มธนาคาร นอกจากนั้นแล้ว กระบวนการโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อยจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ โดยเราคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยหนุนให้สินเชื่อของ TISCO ในปี 60 เติบโต 15% เราคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโต 20.6% ในปี 60 และ 10.8% ในปี 61 หุ้นดังกล่าวยังน่าสนใจสำหรับกลยุทธ์ Dividend play เนื่องจากมีอัตราเงินปันผลตอบแทนค่อนข้างสูงที่ 5.0% Price Pattern ของ TISCO มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily & Monthly Buy Signal รอเพียงการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ก็จะทำให้ Price Pattern ของ TISCO เข้าสู่ความแข็งแกร่งในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ทุก Time Frame เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TISCO ระยะสั้นมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 76.25 บาท ซึ่งหาก Price Pattern ของ TISCO สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 76.25 บาทได้สำเร็จ มีลุ้นว่าจะกลับเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ในกรณีที่ Price Pattern ของ TISCO สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 78 บาท ในกรณีที่ Price Pattern ของ TISCO กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างเต็มตัวจากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal จะมีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 102 บาท ทั้งนี้ TISCO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 73.50 บาท (Resistance: 75.50, 76.25, 77.00; Support: 74.25, 73.50, 72.75)      

 

ปัจจัยสำคัญ                                                                                                       

ประเด็นในประเทศ:

·         ไทย และกัมพูชา มีมติระหว่างกันที่จะเพิ่มการค้าระหว่างประเทศพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุนเซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวานนี้ได้ตกลงที่จะเปิดจุดตรวจชายแดนเพิ่มเติมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของพวกเขาในการเพิ่มการค้าระหว่างสองประเทศ (บางกอกโพสต์)

·         ความเชื่อมั่นSME ปรับตัวขึ้นในเดือนกรกฎาคมสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)ประกาศดัชนีความเชื่อมั่นด้านการค้าและบริการ (TSSI) เดือนกรกฎาคมอยู่ที่100.2เพิ่มขึ้นจากระดับ95.8ในเดือนมิถุนายนนี้โดยเป็นผลหลักๆมาจากภาคเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น (อินโฟเควสท์)

  • แรงจูงใจด้านภาษีการท่องเที่ยวยังคงอยู่ในความไม่แน่นอนนายสมชัยสัจจพงษ์ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่าจากการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไม่ได้มีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการภาษีสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศหลังจากที่กระทรวงได้สั่งให้ททท.กลับไปพิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินมาตรการลดหย่อยภาษีในภาคการท่องเที่ยวใหม่ (ไทยโพสต์)

ต่างประเทศ:

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันพฤหัส จากข้อมูลผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐ ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนเออร์มาและฮาร์วีย์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของนโยบายทางการคลังสหรัฐหลังสิ้นสุดการขยายเพดานหนี้ออกไปอีก 3 เดือน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 05% จากที่ระดับ 2.106% เมื่อวันพุธ (Reuters)
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าค่าเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันพฤหัส ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและเยอรมันปรับตัวลง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลงถึง 1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนม.ค. 58 ที่ระดับ 91.405 (Reuters)

สหรัฐ:

  • ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนกำลังติดตามข่าวพายุเฮอริเคนเออร์มาซึ่งกำลังเคลื่อนตัวลงสู่รัฐฟลอริดาหลังจากที่รัฐเท็กซัสได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ เมื่อรวมกับพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ พายุเฮอริเคนเออร์มาน่าจะก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อการขยายตัวของจีดีพีสหรัฐและอาจทำให้กำไรของบริษัทในสหรัฐลดลง (รอยเตอร์)
  • วุฒิสภาลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 80-17 ให้ปรับเพิ่มเพดานหนี้และจัดสรรงบประมาณให้แก่รัฐบาลไปจนถึงวันที่ 8 ธ.ค. ซึ่งรวมถึงงบประมาณจำนวน 525 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์และภัยธรรมชาติอื่น ๆ  ร่างก.ม. ดังกล่าวในขณะนี้ได้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาอนุมัติเป็นครั้งสุดท้าย  ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกเสียงสนับสนุนเมื่อวันพฤหัสสำหรับความคิดที่จะยกเลิกเพดานหนี้ (รอยเตอร์)
  • จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีในสัปดาห์ก่อน จากการที่มีผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้นในรัฐเท็กซัสซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์  แต่ยังมีแนวโน้มดีอยู่เนื่องจากตลาดแรงงานแข็งแกร่ง  จำนวนยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 62,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 298,000 ราย  โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 241,000 ราย  อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 131 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 (รอยเตอร์)

ยุโรป:

  • หุ้นยุโรปปิดบวกวานนี้ เนื่องจาก ECB ยังยืนยันที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และกล่าวว่าจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นขนาดใหญ่ในเดือน ต.ค.นี้ นอกจากนี้ ประธาน ECB มาริโอ ดรากี กล่าวว่า การที่เงินยูโรแข็งค่าได้ถ่วงค่าเงินเฟ้อไปแล้ว (รอยเตอร์)
  • พื้นฐานทางการเมืองที่แตกแยกของเยอรมันทำให้ยากที่หลายฝ่ายจะเป็นพันธมิตรกัน ซึ่งทำให้ทางออกที่เป็นไปได้คือการจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU)/พรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) และพรรคประชาธิปไตยสังคมแห่งเยอรมนี (SPD) หลังจากการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.ย.นี้ โพลล่าสุดของ Infratestdimapเผยคะแนนความนิยมพรรคของแมร์เคิล CDU/CSU อยู่ที่ 37% ขณะที่คะแนนของพรรค SPD อยู่ที่ 21% นอกจากนี้คะแนนความนิยมของพรรคที่ต่อต้านชาวต่างด้าว AfDอยู่ที่ 11% ตามมาด้วยพรรคฝั่งซ้ายสุด พรรค FDP และพรรคกรีน อยู่ที่ 10% 9% และ 8% ตามลำดับ (รอยเตอร์)

เอเชีย:

  • เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว 5% YoYในไตรมาส 2/60 ปรับลดลงจากประมาณการเบื้องต้นที่ 4.0% เมื่อเทียบกับค่ามัธยฐานของการคาดการณ์สำหรับการเติบโตที่ 2.9% โดยนักเศรษฐศาสตร์ ในส่วนของ GDP QoQเพิ่มขึ้น 0.6% เทียบกับประมาณการเบื้องต้นที่ 1.0% และค่ามัธยฐานของการคาดการณ์เพิ่มขึ้น 0.7% (รอยเตอร์)
  • ทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนปรับขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากการแข็งค่าของเงินหยวนและกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นต่อการไหลออกก่อนการปรับตัวทางการเมืองครั้งสำคัญในเดือนหน้า ในเดือนสิงหาคมทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 11 พันล้านเหรียญเป็น 092 ล้านล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นของเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 24 พันล้านเหรียญสหรัฐ (รอยเตอร์)

สินค้าโภคภัณฑ์:

  • ราคาน้ำมันปิดผสมเมื่อวันพฤหัส โดยเบรนท์ปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นสูงเกินคาด และนักลงทุนกังวลกับพายุเฮอริเคนเออร์มา ถึงแม้โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในสหรัฐเริ่มเปิดทำการอีกครั้งหลังจากปิดทำการเพราะพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ (+5%) อยู่ที่ 54.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 7 เซนต์ (-0.1%) อยู่ที่ 49.09 ดอลลาร์ นอกจากนี้ EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา มากกว่าที่นักวิเคราห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล (รอยเตอร์)
  • ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีในวันพฤหัสบดีหลังจากเงินดอลลาร์ร่วงอ่อนค่าลง ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 1,349.49 เหรียญต่อออนซ์ก่อนที่จะปรับลดลงเล็กน้อยเป็น 1,348.26 เหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 1% ฟิวเจอร์สทองคำสหรัฐสำหรับการส่งมอบในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 1,350.30 ดอลลาร์ (รอยเตอร์)