4เจ้าบ่าวถูกสาวลวงแต่งงาน ร้องปปง.ตามยึดทรัพย์

4เจ้าบ่าวถูกสาวลวงแต่งงาน ร้องปปง.ตามยึดทรัพย์

ทนายสงกานต์ นำอดีตเจ้าบ่าว 4 ราย ถูกเจ้าสาวหลอกแต่งงาน ลวงเอาเงินสินสอดเข้าร้องปปง.ขอให้ช่วยตามอายัดทรัพย์คืน

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) - 7 ก.ย.60 นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำเจ้าบ่าวผู้เสียหายจำนวน 4 คนจากทั้งหมด 13 คน ที่ถูกน.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ น้ำมนต์ หญิงสาวที่ก่อเหตุหลอกลวงให้ ไปแต่งงาน และหลอกเอาเงินค่าสินสอดหลบหนี โดยผู้เสียหายถูกหลอกเงินตั้งแต่ คนละ 1 แสนบาท ถึง 5 แสนบาท เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ปปง. เพื่อขอให้ ปปง.ยึดทรัพย์สินของ น.ส.จริยาภรณ์ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 4 คน ในมูลฐานที่ ปปง.มีอำนาจอายัดและยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ หากได้มาจากการกระทำผิด โดยมี ร้อยตำรวจเอกไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการ สำนักงาน ปปง. เป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายสงกานต์ กล่าาว่า จากการตรวจสอบหลักฐานทางการเงินที่ น.ส.น้ำมนต์ บัญชีธนาคารที่ใช้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินมาให้พบว่าใช้ชื่อบุคคลอื่น คือ สร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ รวมทั้งในการ์ดแต่งงาน และพ่อแม่ของ น.ส.น้ำมนต์ ก็หลอกใช้นามสกุล พาลีวัลย์ ด้วย ล่าสุดในวันนี้บุคคลที่ชื่อ สร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ ซึ่งพบว่ามีตัวตนจริง มีผู้นำตัวมาสอบปากคำกับตำรวจแล้ว ซึ่งจากหลักฐานที่ตนเองมีเชื่อว่า น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงนี้อย่างแน่นอน จึงอยากให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางหาผู้เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์ ทั้งนี้จากข้อมูลในทางลับพบว่ามีผู้ที่โดน น.ส.น้ำมนต์ หลอกในลักษณะเช่นนี้มีแจ้งเบาะแสเข้ามาเรื่อยๆเชื่อว่าไม่ใช่แค่ 13 คน แต่น่าจะมีมากกว่า 20 รายอย่างแน่นอน ขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.น้ำมนต์ ไปแล้วรวม 9 คดี และในอดีตที่ผ่านมาพบว่ายังมีหมายจับในคดีต่างๆโดยเฉพาะฉ่อโกงรวมอีกกว่า30คดีและจนถึงตอนนี้ น.ส.น้ำมนต์ ได้ปิดเฟซบุ๊กและไลน์หนีไม่มีใครสามารถติดต่อได้

ด้าน ร.ต.อ.ไพรัตน์ กล่าวว่า จะขอนำเรื่องไปตรวจสอบว่าเข้าข่ายลักษณะการฟอกเงินหรือไม่ หากมีความเชื่อมโยงจะรีบนำเรื่องส่งต่อให้เลขา ปปง.เซ็นรับทราบเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ในทันที แต่หากตรวจสอบแล้วไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจ ปปง. ก็จะประสานส่งเรื่องต่อยังหน่วยงานที่เกี่ยวให้ช่วยดำเนินการต่อไป