ผลสำรวจความคิดเห็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (ซีไอโอ) ประจำปี 2560 โดย “เคพีเอ็มจี” และ “ฮาร์วีย์ แนช” ระบุว่า 2 ใน 3 หรือ 64% ของธุรกิจองค์กรกำลังปรับกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีให้รองรับสถานการณ์โลกที่ผันผวนและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิ
โดยมีองค์กรมากถึง 89% ที่รักษาระดับการลงทุน หรือเร่งลงทุนด้านนวัตกรรม ต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการปฏิบัติงานมากขึ้น และมีองค์กรเกินกว่าครึ่ง หรือ 52% ที่ลงทุนพัฒนาศักยภาพทางเทคโนโลยีให้มีความรวดเร็วและยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวให้รองรับกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงได้
การวางแผนธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวนเป็นเรื่องยากสำหรับหลายองค์กร ขณะนี้การกำหนดกลยุทธ์ดิจิทัลได้แทรกซึมและช่วยต่อยอดธุรกิจทั่วโลกให้ก้าวสู่มิติใหม่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เห็นได้จากจำนวนธุรกิจที่นำกลยุทธ์ดิจิทัลมาปรับใช้มีเพิ่มขึ้นถึง 52% ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี
อย่างไรก็ดี เพื่อให้การดำเนินกลยุทธ์ดิจิทัลที่มีความซับซ้อนเป็นไปได้อย่างราบรื่น องค์กรส่วนใหญ่ระบุว่า การออกแบบสถาปัตยกรรมองค์กร (Enterprise Architect) มีบทบาทสำคัญในการบูรณาการด้านธุรกิจและเทคโนโลยีให้ตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ขององค์กร ส่งผลให้ความต้องการบุคลากรที่มีทักษะที่เกี่ยวข้องเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นถึง 26% เมื่อเทียบกับปี 2559
ภัยไซเบอร์ทวีคูณ
ข้อมูลที่น่าสนใจพบว่า ช่องโหว่จากความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย 1 ใน 3 หรือ 32% ของผู้บริหารด้านไอที ระบุว่า องค์กรของพวกเขาถูกโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ในช่วง 24 เดือนที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้มีเพียง 1 ใน 5 หรือ 21% ของผู้บริหารด้านไอทีที่กล่าวว่า องค์กรของพวกเขามีการเตรียมความพร้อมรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ในระดับที่ดี
แม้ว่ามีกระแสข่าวการโจมตีทางไซเบอร์จากภายนอกและตกเป็นข่าวพาดหัวหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น มัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCry และ Petya แต่แท้จริงแล้วภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นที่สุดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเกิดจากการโจมตีโดยคนวงใน
“อัลเบิร์ต เอลลิส” กรรมการผู้จัดการ ฮาร์วีย์ แนช กรุ๊ป กล่าวว่า ความสำเร็จจากการใช้เทคโนโลยีเป็นความท้าทายมาโดยตลอด และผลการสำรวจในปีนี้ชี้ว่า กระบวนการดังกล่าวยิ่งทวีความยากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ชะลอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี คือภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และยากที่จะคาดเดาได้ในบางครั้ง
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารด้านเทคโนโลยีหลายรายได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการผลักดันให้องค์กรปฏิรูปเป็นดิจิทัลอย่างรวดเร็วและมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้ปัจจุบันซีไอโอมีบทบาทสำคัญ ได้รับมอบหมายให้ช่วยผลักดันและจัดการกับความซับซ้อน ภัยคุกคาม ตลอดจนมองหาโอกาสที่มีอยู่ในโลกดิจิทัล
มุ่งดิจิทัลเต็มสูบ
“ลิซ่า เฮนเนแกน”ประธานที่ปรึกษาด้านการจัดการ ฝ่ายเทคโนโลยี เคพีเอ็มจี กล่าวว่า องค์กรทั้งหลายได้ก้าวข้ามผ่านยุคการกำหนดกลยุทธ์ และการถกประเด็นเกี่ยวกับดิจิทัล มาสู่ยุคของการลงมือปฏิบัติจริง ปัจจุบันจึงเริ่มได้เห็นการใช้งานดิจิทัลอย่างจริงจังและกว้างขวาง องค์กรที่เป็นผู้นำกำลังดำเนินการอย่างจริงจังในการนำเทคโนโลยีและระบบงานอัตโนมัติมาใช้ในธุรกิจ ซึ่งรวมถึงในสายงานสนับสนุนธุรกิจโดยสร้างแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนองค์กร
ด้าน “ศิราภรณ์ จูฬเศรษฐ์ภักดี” กรรมการบริหาร ฝ่ายการสื่อสารโทรคมนาคม สื่อและเทคโนโลยี เคพีเอ็มจี ประเทศไทย กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ภาคธุรกิจที่มีการทำงานที่มุ่งเน้นกระบวนการ อาทิ สาธารณูปโภค ขนส่ง สื่อสารโทรคมนาคม และเภสัชภัณฑ์ เริ่มนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่และแรงงานดิจิทัลมาใช้ ทั้งยังได้นำหุ่นยนต์กระบวนการทำงานอัตโนมัติ ( Robotic Process Automation - RPA) และการใช้เทคโนโลยีด้านการคิดคำนวณเสมือนมนุษย์แบบอัตโนมัติ (Cognitive Automation) มาใช้ในธุรกิจ
นอกจากนี้ จะเห็นบริษัทในภาคธุรกิจธนาคารและการเงิน ธุรกิจสื่อสาร โทรคมนาคม การกระจายภาพและเสียงและสื่อ ธุรกิจบริการทางวิชาชีพ และธุรกิจเทคโนโลยี มีแนวโน้มสูงขึ้นที่จะลงทุนในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้
“การปฏิรูปองค์กรเป็นดิจิทัล หรือ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการปรับโฉมธุรกิจในทุกมิติ หากต้องการก้าวเข้าสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ องค์กรจะต้องตื่นตัวอยู่เสมอ เพื่อหาทางรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการที่จะป้องกันและจัดการกับการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น องค์กรจำเป็นต้องคำนึงถึงการเพิ่มขีดความสามารถใน 3 ด้านไปพร้อมๆ กัน ได้แก่ บุคลากร ระบบ และเทคโนโลยี”
ปัจจุบัน หลายองค์กรกำลังปรับเปลี่ยนไปสู่ความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้นชัดเจน ทั้งมีหลายรายเริ่มต้นเส้นทางการปฏิรูปองค์กรให้เป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
รายใหญ่เร่งลงทุน
ผลสำรวจพบว่า เกือบ 1 ใน 5 หรือ 18% ของซีไอโอ กล่าวว่า องค์กรของพวกเขามีกลยุทธ์ดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ซีไอโอในองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล มีแนวโน้มที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ทั่วทั้งธุรกิจสูงกว่าองค์กรทัวไปถึง 2 เท่า
ขณะเดียวกันมีการลงทุนมากกว่าถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับอัตราการลงทุนขององค์กรที่ไม่ใช่ผู้นำด้านเทคโนโลยี ในภาพรวมพบว่า เกือบ 2 ใน 3 หรือ 61% ของซีไอโอในองค์กรขนาดใหญ่กำลังลงทุน หรือมีแผนการลงทุนด้านแรงงานดิจิทัลด้วย
ซีไอโอยังมีแนวโน้มที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในระดับคณะกรรมการบริษัทมากขึ้น โดยเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ ที่มากกว่า 7 ใน 10 หรือ 71% เชื่อว่าบทบาทของพวกเขามีการบริหารที่เป็นเชิงกลยุทธ์มากยิ่งขึ้น จากการสำรวจมีซีไอโอจำนวน 92% ได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริษัทในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
สำหรับความท้าทาย เนื่องจากโครงการด้านไอทีนั้นมีความซับซ้อน ความเสี่ยงด้านความล้มเหลวสูง 2 ใน 3 หรือ 61% ของซีไอโอให้สัมภาษณ์ว่า โครงการไอทีมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นจาก 5 ปีที่ผ่านมา และปัจจัยที่ส่งผลให้โปรเจคไอทีไม่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ การไม่มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน 46% การวางแผนการปฏิบัติงานที่ไม่ได้คำนึงถึงปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น 40% และการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ไม่ชัดเจน 40%
ขณะที่ มากกว่า 1 ใน 4 หรือ ราว 27% ของซีไอโอ กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถในการบริหารจัดการโครงการ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โครงการล้มเหลว ทุกวันนี้การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) ยังเป็นทักษะที่มีความต้องการมากที่สุด ขณะที่ทักษะด้านเทคโนโลยีที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในปีนี้คือ ความสามารถด้านสถาปัตยกรรมองค์กร แต่โดยภาพรวมการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและเชิงกว้างยังเป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด
การสำรวจครั้งนี้เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ความคิดเห็นผู้บริหารด้านไอทีที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนกว่า 4,498 คนใน 86 ประเทศทั่วโลก