คุยกับ ‘พรรณสิรี อมาตยกุล’ วันที่ ‘ค็อกนิทิฟ’ รุกคืบโลกธุรกิจ

คุยกับ ‘พรรณสิรี อมาตยกุล’ วันที่ ‘ค็อกนิทิฟ’ รุกคืบโลกธุรกิจ

ไทยมีศักยภาพที่จะก้าวสู่ดิจิทัล ตื่นตัวลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ วางกลยุทธ์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น

เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง “ค็อกนิทิฟ” ผู้เล่นรายที่ตื่นตัวมากที่สุดเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยักษ์ฟ้า “ไอบีเอ็ม”

หลังจากประกาศเปลี่ยนจุดยืนบริษัทจาก “เซอร์วิส คอมพานี” ไปเป็น “ค็อกนิทิฟ โซลูชั่น และ คลาวด์ แพลตฟอร์มคอมพานี” อย่างเต็มตัวเมื่อปลายปี 2558 มาถึงวันนี้ยักษ์ฟ้าใช้งบลงทุนสำหรับวิจัยและพัฒนา รวมถึงควบรวมกิจการบริษัทเทคโนโลยีเพื่อเสริมความแข็งแรงธุรกิจมาต่อเนื่องด้วยเม็ดเงินมหาศาล เฉพาะปี 2559 ปีเดียวทุ่มไปมากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์

"พรรณสิรี อมาตยกุล" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เผยว่า ภายใต้ชื่อ “ไอบีเอ็ม วัตสัน” ค็อกนิทิฟจากไอบีเอ็มกำลังเข้าไปมีบทบาทแล้วในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเงินการธนาคาร เฮลธ์แคร์ พลังงาน การท่องเที่ยว กีฬา ยานยนต์ การเกษตร การศึกษา การบิน บันเทิง ฯลฯ

“ค็อกนิทิฟนั้นแทรกซึมไปในทุกที่ ฝั่งตัวไปในทุกๆ สิ่ง ไอบีเอ็มคาดไว้ว่า ภายในสิ้นปี 2560 วัตสันจะสามารถเข้าถึงประชากรได้ไม่น้อยว่า 1,000 ล้านคน ทั่วโลก”

ปัจจุบัน การให้บริการครอบคลุมใน 45 ประเทศ 20 อุตสาหกรรม มีพันธมิตรมากกว่า 500 ราย นักพัฒนา 8.2 ล้านคน รวมมีเอพีไอสำหรับให้บริการมากกว่า 30 ชุด ขณะนี้รายได้ที่มาจากค็อกนิทิฟโซลูชั่นและคลาวด์แพลตฟอร์มของไอบีเอ็มมีสัดส่วนกว่า 43% ของรายได้ทั้งหมด จากปี 2556 ที่มีอยู่ราว 22%

ไทยตื่นตัวลงทุน

เอ็มดีไอบีเอ็มประเมินว่า ในประเทศไทยมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยขณะนี้พบว่าการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์มีการเติบโตที่สูงมาก ไอบีเอ็มเองเติบโตทั้งในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร คอมเมอร์เชียล เห็นการลงทุนใหม่ๆ ทั้งค็อกนิทิฟ การออกแบบนวัตกรรมเทคโนโลยี ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของข้อมูลจำนวนมหาศาล หรือ บิ๊กดาต้าและที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล

เธอกล่าวว่า คลาวด์เติบโตอย่างมาก แม้แต่กับธุรกิจขนาดกลางและเล็กก็โตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก บริษัทต่างๆ หันมาให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมด้านไอทีอินฟราสรักเจอร์ มีแนวคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เปิดรับ พร้อมวางกลยุทธ์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น

“ประเมินจากต้นปีไทยนับว่ามีศักยภาพที่จะก้าวสู่ดิจิทัลอย่างแข็งแรง ในภาพรวมตื่นตัวลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งไฮบริดคลาวด์ บล็อกเชน ค็อกนิทีฟ ไอโอที รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ แม้แต่ระดับเล็กก็มีความพยายามที่จะสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น”

อย่างไรก็ดี นอกจากประเด็นการนำดาต้ามาใช้ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการ สำคัญต้องมองไปถึงการพัฒนาปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า โจทย์คือทำอย่างไรให้ลูกค้าอยู่กับบริษัทนานๆ เรื่องนี้เชื่อว่าจากนี้และต่อไปในอนาคตค็อกนิทิฟจะเป็นตัวจักรขับเคลื่อนที่สำคัญ

เงินไม่ใช่ปัญหา

จากข้อมูลโดยบริษัทวิจัยไอดีซีที่ประเมินไว้ว่า ธุรกิจองค์กรส่วนใหญ่ใช้งบลงทุนไอทีสำหรับพัฒนานวัตกรรมพร้อมสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่เพียง 25% ที่เหลือ 75% ยังคงใช้ไปกับการดูแลรักษาระบบที่มีอยู่เดิมนั้น พรรณสิรี มีมุมมองว่า เห็นด้วยกับตัวเลขดังกล่าว

แต่ทั้งนี้ แม้งบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด ทว่าการพัฒนานวัตกรรมใหม่ทุกวันนี้ไม่จำเป็นต้องใช้งบการลงทุนจำนวนมหาศาลอีกต่อไป เนื่องจากเทคโนโลยียุคใหม่เช่นคลาวด์ คอมพิวติ้งได้เพิ่มทางเลือกที่ราคาถูกลง ทำงานได้เร็วขึ้น จากประสบการณ์ของทีมไอบีเอ็มมีลูกค้าเริ่มต้นจากแนวคิดหรือโครงการต้นแบบที่เล็กๆ อยู่จำนวนมาก

ส่วนของไอบีเอ็มมั่นใจว่า มีศักยภาพที่จะตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ทุกระดับ ทั้งเป็นรายเดียวในตลาดที่มีทีมงานเชี่ยวชาญเฉพาะทางรายอุตสาหกรรม เช่น ทีมเฮลธ์แคร์มีอยู่กว่า 7,000 คน ธนาคาร 6,000 คน 

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มของไอบีเอ็มออกแบบมาเฉพาะเพื่อเอ็นเตอร์ไพรซ์ มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง และด้วยบริษัทมองว่าดาต้าเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดขององค์กร ดังนั้นจะไม่มีการเปิดเผย เผยแพร่ หรือนำไปใช้กับลูกค้ารายอื่นๆ 

พร้อมประเมินว่า ภายในสิ้นปี 2560 นี้ลูกค้าในประเทศไทยจะมีความชัดเจนต่อการเลือกผู้ให้บริการ การเลือกลงทุนทางเทคโนโลยี ด้วยส่วนใหญ่มีประสบการณ์มาแล้วว่า ผลที่ได้จากการพัฒนาแบบเดี่ยวๆ ไม่ได้ดีเท่ากับการทำแบบครบวงจรรูปแบบแพลตฟอร์ม

ขณะที่ อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ต้องตามติดแบบไม่กระพริบตาคือ “บล็อกเชน” คาดว่าจะเข้ามาสร้างผลกระทบครั้งใหญ่ต่อกระบวนการธุรกิจเทียบชั้นการมาของอินเทอร์เน็ต

รู้จัก “ค็อกนิทิฟ”

ค็อกนิทิฟ คือ แพลตฟอร์มอัจฉริยะที่สามารถเข้าใจ วิเคราะห์ เรียนรู้บริบทที่เกิดขึ้นรอบตัวได้เสมือนมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงอารมณ์ การสนทนา ภาพ เสียง สามารถตั้งสมมุติฐาน ให้คำแนะนำ และปฏิสัมพันธ์ได้ในระดับปัจเจกบุคคล นับเป็นมิติใหม่ของระบบวิเคราะห์และประมวลผลบิ๊กดาต้าชั้นสูงซึ่งขับเคลื่อนบนเทคโนโลยีคลาวด์

ทั้งนี้มาพร้อมความสามารถที่โดดเด่น 5 แขนงคือ บิ๊กดาต้าและอนาไลติกส์ ปัญญาประดิษฐ์ ระบบที่เข้าใจภาษาธรรมชาติ ภาพและเสียงแบบเดียวกับมนุษย์ ทั้งมีระบบองค์ความรู้และความเข้าใจในบริบทความรู้ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและหลักการประมวลผลขั้นสูง

ไอบีเอ็ม เชื่อว่าข้อมูลที่แต่ละองค์กรมีอยู่เมื่อได้ผ่านกระบวนการวิเคราะห์จากวัตสัน และวางอยู่บนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาอย่างดีจะส่งเสริมให้องค์กรสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

มากกว่านั้น ขยายองค์ความรู้ในองค์กรได้กว้างขึ้น เปิดโอกาสให้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ หรือ ขยายธุรกิจใหม่ได้อย่างคล่องตัว