รพ.ส่งพวงหรีดเสียใจปล่อยคนไข้วิกฤตตาย ญาติอัดควรขอโทษ

รพ.ส่งพวงหรีดเสียใจปล่อยคนไข้วิกฤตตาย ญาติอัดควรขอโทษ

ผอ.โรงพยาบาลฯส่งจนท.มอบหรีดแสดงความเสียใจ กรณีปล่อยคนไข้วิกฤตตาย ญาติอัดกลับหลังจากเจ้าหน้าที่ขอให้หยุดให้ข้อมูลนักข่าว ระบุควรจะแอ่นอกรับขอโทษ เราก็ยินดีจะให้อภัย

บรรยากาศภายในงานสวดอภิธรรมศพคืนที่สอง เมื่อค่ำวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา กรณีนางจิราภรณ์ อิ่มใจ อายุ 32 ปี ผู้เสียชีวิตจากกรณีเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ฯในจังหวัดสระแก้ว และถูกปล่อยไว้ในห้องฉุกเฉินตั้งแต่เวลา 12.00-17.00 น. โดยไม่ดำเนินการรักษาอะไรทั้งที่เป็นผู้ป่วยวิกฤต จนน้ำเกลือหมดขวดและเลือดไหลย้อนกลับเข้าเส้นเลือด และช็อคเสียชีวิตในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยที่วัดบ้านพัฒนา ม.10 ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ยังคงมีญาติและผู้ทราบข่าวเดินทางมาร่วมงานเพิ่มขึ้นประมาณ 150-200 คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก มีลูกชาย 2 คนของผู้ตายมานั่งด้านหน้าบริเวณที่ตั้งศพพร้อมผู้เป็นสามี และญาติ ร่วมกันประกอบพิธีแล้วเสร็จ

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายดำรงศักดิ์ เทพทอง อายุ 44 ปี สามีของผู้ตาย และนายกฤษณะ สุขน้อย อายุ 33 ปี พี่เขย ว่าในช่วงเย็นที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯจำนวน 2 คน เดินทางมาพบญาติที่วัด เพื่อนำพวงหรีดของนายแพทย์สวรรค์ ขวัญใจพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว มามอบให้ พร้อมกับกล่าวคำว่า เสียใจ หลังจากนั้นก็สอบถามความต้องการของญาติคนตายว่า ต้องการให้ช่วยเหลือหรือดำเนินการอย่างไร พร้อมรับข้อแนะนำและความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์สูญเสียครั้งนี้ของญาติ เพื่อนำไปเสนอผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายกฤษณะ สุขน้อย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 ม.14 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พี่เขยของคนตาย ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่พยายามจะไม่ให้ญาติให้ข่าว อยากให้เรื่องจบ ๆ ไปและหยุดแค่นี้ จึงทำให้ญาติรู้สึกไม่พอใจ เพราะหากไม่ร้องสื่อคงไม่มีใครลงมาดูดำดูดี หรือสนใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านที่เข้าไปใช้บริหารโรงพยาบาลแน่ และไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่นำไปรายงานผู้บริหารจะตรงกับที่ญาติพูดหรือไม่ ไม่อยากให้โรงพยาบาลแก้ตัว ประเด็นอยู่ที่รพ.มีส่วนทำให้เกิดการสูญเสีย เกิดจากการไม่เอาใจใส่ เขาถามว่า ต้องการให้ รพ.ช่วยปรับปรุงอะไร เหมือนไม่จริงใจ อยากให้กรณีนี้เป็นกรณีสุดท้ายจริง ๆ

นายกฤษณะ กล่าวอีกว่า เราออกมาพูดไม่ได้หวังจะได้เงินทอง แต่อยากให้มีการแก้ไข แต่หากเป็นสาเหตุให้มีการชดเชยได้ก็อยู่ที่ความกรุณา เพราะเด็ก 2 คน อายุ 3 ขวบและ 13 ขวบ ต่อไปเขาไม่มีแม่แล้ว เด็กคนเล็กยังไม่รู้เลยว่า แม่ตาย ตอนนี้งานศพญาติก็ต้องช่วยกัน ยังสรุปกันไม่ได้เลยว่า จะสวดกี่คืน จะเผาวันไหน ฉะนั้นจะให้ผมไปฟ้องร้องเรียกร้องอะไรคงไม่ทำ จะไปสู้อะไรได้กับหน่วยงานรัฐ อยู่ที่ความกรุณา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เอารายละเอียดบัตรประชาชนและเอกสารอื่น ๆ ไป บอกว่า จะไปช่วยดำเนินการให้ ก็ขอบคุณ ห่วงอนาคตหลาน

" ถ้ายังขืนปล่อยไว้อย่างนี้ จะมีคนตายอีกกี่คน ยกตัวอย่าง รพ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา มีหมอไม่กี่คน พ่อผมเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ เมื่อเขารักษาไม่ได้ อุปกรณ์ไม่พอ เขาก็ใส่ใจทำเรื่องและรีบส่งตัวไป รพ.เครือข่ายที่ จุฬารัตน์ เพื่อทำบายพาสหัวใจทันที โรงพยาบาลเล็ก ๆ แต่เขาใส่ใจ มีหลายคนเจอแบบนั้น ทำไมเขาทำได้ ไม่ต้องให้นอนรอความตายแบบนี้ โรงพยาบาลควรจะแอ่นอกรับ ขอโทษ คนเราก็ยินดีจะให้อภัย และแก้ไขให้ดีขึ้น หากจะแสดงพฤติกรรมที่จะปิดข่าว ไม่อยากให้ญาติพูด ซึ่งบางที่อาจจะทำจนเคยชิน ซึ่งผมพูดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ นักข่าวและญาติ ๆ ซึ่งนั่งอยู่กันครบ" นายกฤษณะ กล่าว

ส่วนนายดำรงศักดิ์ เทพทอง อายุ 44 ปี สามีของผู้ตาย ก็บอกเพียงว่า รู้สึกขอบคุณที่มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลใส่ใจลงมาที่วัดเพื่อถาม และรับปากจะไปช่วยดำเนินการให้ จะช่วยหรือแก้ไขอย่างไรอยู่ที่เจ้าหน้าที่ ตอนนี้เด็ก ๆ 2 คนเขาก็ขาดแม่ ยังไม่ได้วางแผนเลยว่า จะเนินการอย่างไร รอให้เสร็จงานศพไปก่อน ก็อยากให้โรงพยาบาลแก้ไขการให้บริการ เพื่อไม่ให้ใครเจอปัญหาอย่างตนเองอีก

อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินการแก้ปัญหาในกรณีนี้ ทางนายแพทย์อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้มีการประสานไปที่ นายแพทย์สวรรค์ ขวัญใจพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ให้มีการตั้งทีมเพื่อตรวจสอบข้อมูลตั้งแต่ต้นทาง เพื่อทบทวนขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติทั้งหมดของโรงพยาบาลว่า เกิดอะไรขึ้นในระหว่างการดูแลผู้ป่วยหรือไม่ โดยเตรียมการจัดนัดหารือกันในวันนี้ด้วย