วางแผนชีวิตโสดเกษียณอย่างสมาร์ท สตาร์ทได้ตั้งแต่วันนี้

วางแผนชีวิตโสดเกษียณอย่างสมาร์ท สตาร์ทได้ตั้งแต่วันนี้

การอยู่คนเดียวให้เป็นสุขตลอดชีวิต ต้องอาศัยการวางแผนที่ดีซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการวางแผนชีวิตของคนมีครอบครัวเลย  ถ้าคุณคิดจะเป็นโสดอย่างสมาร์ท ต้องคิดถึง 5 สิ่งต่อไปนี้

นับวัน คนโสดดูจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ผลการสำรวจของบริษัทจัดหาคู่บางแห่งพบว่า ร้อยละ 40 ของคนวัยทำงาน หรือประมาณ 17 ล้านคนเลือกที่จะเป็นโสด การอยู่คนเดียวให้เป็นสุขตลอดชีวิต ต้องอาศัยการวางแผนที่ดีซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการวางแผนชีวิตของคนมีครอบครัวเลย  ถ้าคุณคิดจะเป็นโสดอย่างสมาร์ท ต้องคิดถึง 5 สิ่งต่อไปนี้เลย     

1. วางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่นๆ รองรับวัยเกษียณ – สมมติว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ถึง 75 ปี และจะเกษียณตัวเองตอนอายุ 55 ปี คุณต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ ถึงจะอยู่ได้สบายๆ หลังเกษียณไปอีก 20 ปี ที่ว่าสบายๆ นั้นหมายถึงว่าคุณต้องมีเงินสำหรับดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ค่ากิน ค่ายา ค่าหมอ ค่าประกัน ค่าน้ำไฟ ที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายพิเศษ เช่น ค่าท่องเที่ยว ค่าช็อปปิ้ง ค่ารักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉิน  ทุกวันนี้มีโปรแกรม และแอพพลิเคชั่นมากมายที่ช่วยให้คุณคำนวณเงินสำหรับใช้ชีวิตวัยเกษียณได้ง่ายๆ ลองคำนวณดูว่าคุณมีเงินพอไหม ต้องเก็บหรือวางแผนใช้จ่ายอย่างไรจึงจะพอ  ยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี  
   

 2. ลงทุนเติบโตรับเทรนด์ผู้สูงวัย กำไรและมั่นคง – แม้คุณจะมีรายได้จากงานประจำหรือธุรกิจที่ทำให้คุณใช้ชีวิตสบายๆ ได้ในวันนี้  แต่การลงทุนเพิ่มเติมจะช่วยสร้าง “ความมั่นคง” ให้กับชีวิตในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรมทั้งสำหรับคนโสดและมีครอบครัวแล้ว ไม่ว่าจะป็นการลงทุนในตลาดเงิน ตลาดทุน หรือโครงการที่มีศักยภาพ เช่น โครงการที่พักอาศัยที่เจาะตลาดผู้สูงวัย นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะแม้ว่าคุณจะยังไม่ได้เข้าไปอยู่เองเร็วๆ นี้ แต่มีไว้เพื่อการลงทุนปล่อยเช่าก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะความต้องการอยู่อาศัยในโครงการประเภทนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นโครงการใดที่สามารถตอบโจทย์ชีวิตสูงวัยได้ครบครัน โดดเด่นและออกมาเปิดตัวในเวลาที่เหมาะสมก็ถือเป็นอีกการลงทุนที่คนโสดควรจับตามอง

3. ที่อยู่อาศัยที่ชวนให้ “ใช้ชีวิต” –  คนโสดหลายรายเลือกที่จะอาศัยในคอนโดมิเนียม เพราะความสะดวกสบายและคล่องตัว แต่อย่าลืมว่า สังคมและสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น สุขภาพร่างกาย จิตใจ และการใช้ชีวิตจะเปลี่ยนไป คนสูงอายุมักจะเหงา ขาดสังคม ทำให้มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูง การเลือกที่อยู่อาศัยที่ออกแบบมาเพื่อ “ส่งเสริม” ไลฟ์สไตล์ของคนสูงวัย ได้พบปะทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน ล้อมรอบด้วยสภาพแวดล้อมที่ชวนให้ “คุณในอนาคต” ออกมาสนุกกับการใช้ชีวิต จึงเป็นเรื่องใหม่ที่คนโสดไม่ควรมองข้าม

4. ดูแลสุขภาพแบบ “ป้องกัน” ดีกว่า “รักษา” – เพราะร่างกายของคุณต้องอยู่กับคุณไปจนวันสุดท้ายของชีวิต เสียหายไปจะซ่อมยาก คุณจึงต้องรักมันไม่น้อยไปกว่าชีวิตโสดที่คุณเลือก คนโสดควรให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพเชิงป้องกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อลดภาวะเสี่ยงของโรคต่างๆ  การเริ่มวางแผนดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการกิน การออกกำลังกาย ลดพฤติกรรมเสี่ยง ควบคู่ไปกับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จึงเป็นสิ่งที่คนโสดไม่ควรละเลยขณะที่ร่างกายยังแข็งแรงอยู่ในปัจจุบัน 5. ไม่มีแฟน ก็มี “คนดูแล” แทนได้ – คนโสดจำนวนมากมีญาติพี่น้องหรือหลานดูแลชีวิตบั้นปลาย และมีอีกหลายคนที่เลือกจะไม่เป็นภาระต่อใคร แต่สุดท้ายเมื่อถึงวันที่สภาพร่างกายเปลี่ยนไปก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีคนช่วยเหลือดูแล ถ้าจะให้ดี ควรพิจารณาที่อยู่อาศัยซึ่งมีคนพร้อมดูแลชีวิตเราในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิดและเป็นระบบ อบอุ่น เป็นกันเอง รวมถึงการดูแลด้านการใช้ชีวิต ช่วยผลักดันให้ออกมาทำกิจกรรมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม สร้างแรงบันดาลใจให้ยังรู้สึกถึงคุณค่าในตัวเอง  พร้อมๆ กับไม่ทำให้รู้สึกว่าการที่มีอายุเพิ่มขึ้นนั้นเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตแต่อย่างใด  


เริ่มต้นวางแผนโสดเกษียณอย่างสมาร์ทด้วยการเตรียมตัวใน 5 สิ่งนี้ จะอยู่อีกกี่ปีหลังเกษียณ คุณก็สูงวัยได้แบบยังมีไฟ และสุขได้แบบไร้กังวล