โจรแสบตุ๋นเซียนพระ จ.ปทุมธานี เชิดทองหนัก 50 บาท

จากกรณีที่คนร้ายขโมยกระเป๋าของนายนิสิทธิ์ พุทรักษ์ อายุ 69 ปี เซียนพระชื่อดัง ซึ่งเปิดร้านอยู่ที่ตลาดพีเซนเตอร์ จ.ปทุมธานี โดยคนร้ายได้ทองรูปพรรณน้ำหนัก 50 บาท และพระเครื่องอีกกว่า 100 องค์มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เหตุเกิดที่บริเวณปากซอนนวมินทร์ 101 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ต่อมาหลานของผู้เสียหายโพสต์ภาพและคลิปในโลกออนไลน์ เพื่อให้ผู้พบเห็นแจ้เบาะแสน พร้อมกับแจ้งความเอาไว้ที่ สน.ลาดพร้าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบเหตุดังกล่าวที่ สน.ลาดพร้าว พบว่าทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชวลิต กิ้มเฉี้ยง รอง สว.(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากคนร้ายได้ออกอุบายและหลอก นายนิสิทธิ ว่าจะพาไปหาคนที่ต้องการเช่าพระ โดยหลอกให้ขับรถพาไปแถวๆ ถนนนวมินทร์ ทั้งนี้ ระหว่างการเดินทางผู้เสียหายขับรถผิดเลน จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจและออกใบสั่ง โดยคนร้ายได้อาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเดินไปเอาใบสั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  เปิดประตูรถพร้อมทั้งหิ้วกระเป๋าของผู้เสียหายลงจากรถ แล้ววิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยภายในกระเป๋ามีทรัพย์สิน พระเครื่อง สร้อยคอทองคำ กรอบพระทองคำ เช็คเงินสด ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เซียนพระเคราะห์ร้ายเก็บสะสมมาทั้งชีวิต ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังเกิดเหตุผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความกับทางตำรวจทันที

นายนิสิทธิ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนมาเปิดร้านเช่าพระตามปกติ โดยคนร้ายทำทีเข้ามาชวนคุย พร้อมกับบอกว่าเดินดูพระอยู่หลายร้านแล้ว เห็นมีแต่พระปลอม แต่ร้านของตนมีพระแท้หลายองค์ อีกทั้งยังบอกกับตนเองอีกว่า มีคนอยากเช่าพระแถวนวมินทร์ ครั้งแรกตนก็ไม่เชื่อ ทางคนร้ายจึงได้ชวนคุยเกือบ 1 ชั่วโมง จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งตนรู้จักมักคุ้นกันมาคุยด้วย ทางคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิ ซึ่งแขนขาดก็เข้ามาชมเชยว่า ทำงานเป็นคนดีช่วยเหลือสังคม คนร้ายจึงหยิบพระที่อยู่ในย่ามของคนร้ายมอบให้ไป 1 องค์   

“พฤติกรรมที่คนร้ายแสดงให้ผมเห็น คิดว่าน่าจะเป็นคนดี เพราะใครที่ไหนจะให้พระคนอื่นง่าย ๆ แบบนี้ จึงทำให้ผมหลงเชื่อ และยอมขับรถไปตามถนนนวมินทร์ ตามที่คนร้ายบอกว่า มีผู้ที่จะเช่าพระ และผมก็ไม่รู้จักเส้นทางแถมนั้นดี แถมรถยังติด จึงทำผมขับรถผิดกฎจราจร เพราะขับรถผิดเลน จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตักเตือนและให้ใบสั่ง ระหว่างที่ลงจากรถไปถามตำรวจว่า สน.อยู่ไหน เพราะจะไปจ่ายค่าปรับที่ถูกออกใบสั่ง ใช้เวลาลงไปถามไม่ถึง 30วินาที เมื่อผมกลับมาที่รถซึ่งติดฟิล์มหนาทึบ ก็ไม่เห็นคนร้ายแล้ว และเมื่อไปตรวจสอบที่เบาะหลังก็ไม่เห็นกระเป๋าที่นำติดตัวมาด้วย ครั้งแรกนึกว่าคนร้ายลงไปซื้อของ แต่พอไปถามคนระแวกนั้น ก็ไม่มีใครเห็น จึงได้ติดต่อขอดูวงจรปิดในละแวกดังกล่าว ก็พบว่าคนร้ายได้เอากระเป๋าที่มีทองคำและพระเครื่องเก่าของผมไปแล้ว”

ทางด้าน พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้วคือ นายชลิต บุญยิ่ง อายุ 32 ปี โดยทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับในข้อหาลักทรัพย์ ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า นายชลิต มีหมายจับของศาลแขวงนนทบุรี เมื่อวันที่ 18 ต.ค.56 และหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.54 โดยหมายจับทั้งสอง มีข้อหาเดียวกัน คือฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป