ล่าโจรแสบ! ย่องงัดบ้านครูปีเดียว4ครั้งเชื่อเป็นโจรคนเดียวกัน

ล่าโจรแสบ! ย่องงัดบ้านครูปีเดียว4ครั้งเชื่อเป็นโจรคนเดียวกัน

บ้านหรูครูสาวถูกโจรงัดบ่อยจนต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดให้พ่อแม่ช่วยดูแล โจรไม่เลิกยังคงหาวิธีการเข้าบ้านแต่กล้องจับภาพได้คาดเป็นคนกลุ่มเดียวกัน

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 1 กันยายน ร.ต.อ.วิเชียร คล้อยดี ร.ต.อ.ศุภกิต วาโย รอง สว.สืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ออกไปตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ ที่ชุมชนบ้านช้าง เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด พบนางอุ่นเรือน ศรีไชยโย อายุ 73 ปี และนายบุญถม ศรีไชยโย อายุ 77 ปี ยืนรอให้การและนำตรวจที่เกิดเหตุ พบกล้องวงจรปิดบริเวณหลังบ้าน ถูกคนร้ายนำท่องพีวีซี สีเหลืองผลักให้หันกล้องขึ้นเพดาน

นางอุ่นเรือน และนายบุญถม ให้การว่า บ้านหลังนี้เป็นของลูกสาว ซึ่งเป็นครูสอนอยู่ที่ จ.ขอนแก่น สร้างในราคา 4.5 ล้านบาท ลูกสาวจะกลับมาบ้านในเย็นวันศุกร์ และกลับไปสอนในเย็นวันอาทิตย์ พวกตนซึ่งเป็นข้าราชการเกษียณอายุจะมีบ้านพักอยู่บริเวณริมหนองประจักษ์ศิลปาคม บางวันจะมานอนเฝ้าบ้านให้ลูกสาว แต่บางวันก็ต้องกลับไปดูบ้านตัวเอง จึงเป็นช่องว่างให้โจรเข้ามางัดบ้านและลักทรัพย์ถึง 4 ครั้งแล้ว

ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2560 คนร้ายขโมยทรัพย์สินภายในบ้านไป มีทีวีจอแบน 2 เครื่อง เครื่องเล่นสเตอริโอ 1 ชุด กล้องถ่ายรูปดิจิตอล 1 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ครั้งที่ 2 วันที่ 25 ม.ค.60 คนร้ายได้ลักเอาปั๊มน้ำ 1 เครื่อง ตอนนั้นลูกสาวจึงตัดสินใจติดกล้องวงจรปิดรอบบ้าน 4 ตัว และสัญญาณกันขโมย แต่คนร้ายก็กลับมางัดบ้านอีกเป็นครั้งที่ 3 ครั้งนี้คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สิน พบภาพจากกล้องวงจรปิด คนร้ายเป็นชาย 1 คน สูงประมาณ 175-180 ซม. เดินเข้ามาในบ้าน และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 เวลาประมาณ 20.30 น. คืนวันที่ 31 สิงหาคม ขณะที่ตนนั่งดูทีวีอยู่บ้าน ได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดที่ส่งสัญญาณเข้ามือถือ พบว่ากล้องทั้ง 4 ตัว ยังปกติดี กระทั่งเวลา 21.00 น. ลูกสาวที่อยู่ จ.ขอนแก่น พบภาพจากกล้องวงจรปิดหลังบ้านจอมืดดำจึงได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าบ้านมีสิ่งผิดปกติ พวกตนรอกระทั่งเช้าวันนี้ จึงได้ขับรถออกมาดู ไม่พบว่าประตูหรือหน้าต่างถูกงัดแต่อย่างใด และทรัพย์สินยังอยู่ครบ แต่พบท่อพีวีซี ยาวประมาณ 1 เมตร พิงไว้ที่ฝาผนังหลังบ้าน

ส่วนกล้องวงจรปิดถูกผลักแหงนหน้าขึ้นฝ้าเพดาน เชื่อว่าคนร้ายใช้ท่อพีวีซีมาดันกล้องให้แหงนหน้าขึ้น เพื่อจะเข้ามาลักทรัพย์ และเมื่อเปิดภาพย้อนหลัง ก็พบคนร้าย 2 คน สวมหมวกไหมพรม ยืนอยู่นอกรั้ว และมั่นใจว่าต้องเป็นคนร้ายคนเดียวกันที่เคยก่อเหตุแน่นอน จึงแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ และจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ให้ด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะนำภาพวงจรปิดไปติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป