บุกยึดไม้สักเถื่อนซุกเต็มบ้าน

บุกยึดไม้สักเถื่อนซุกเต็มบ้าน

ตชด.พร้อมอาวุธครบมือ สนธิกำลัง ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครองลำพูน บุกตรวจสอบมอดไม้ หลังซุกไม้สักแปรรูปไม้กระยาเลย ซุกใต้ถุนบ้านรอส่งขายนายทุน

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.60 พ.ต.ท. ภูษิต กฤษสมัย ผบ.ร้อย.ตชด.333 จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย ร.ต.อ.นภัทร ชะวาลา ร.ต.อ.สุรกาญจน์ มูลมอญ รอง ผบ.ร้อย ตชด. 333 จ.เชียงใหม่ และพวก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลพ.2 (บ้านโฮ่ง) เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย รส.ที่3 ( ร.7 พัน2 ) จ.ลำพูน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโฮ่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน และ ผู้ใหญ่บ้านดอยโตน หมู่ที่ 10 ต.ป่าพลู อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ได้ร่วมกันบุกตรวจยึด ไม้สักแปรรูปจำนวน 101แผ่น ไม้กระยาเลยแปรรูปจำนวน 72 แผ่น เลื่อยยนต์ พร้อมบาร์และโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่ากระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ข้อหาทำไม้แปรรูปในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดป่าหลังหมู่บ้านดอยโตน ต.ป่าพลู อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน

พ.ต.ท. ภูษิต บอกว่า ตำรวจได้รับรายงานจากสายลับว่า ที่บ้านหลังนี้ มีการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอุทยาน อีกทั้งมีการลักลอบตัดไม้สักโดยไม่ได้รับอนุญาต นำมาพักไว้ทำเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งเชื่อว่าเป็นการพักไม้เพื่อรอแกะส่งขายให้กับนายทุน ซึ่งไม้ที่นำมาแปะติดทำเป็นบ้านแต่ไม่มีเลขที่ มีลักษณะไม้หวงห้าม ทั้งไม้สักทองและไม้กระยาเลย ที่เพิ่งแปรรูปมาใหม่ ๆ ปะปนกับไม้เก่าด้วย อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มักมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเพื่อลำเลียงไม้ทั้งแปรรูปและไม้ท่อนส่งขายให้นายทุนมานานแล้ว

สำหรับบ้านหลังนี้ คือบ้านของนายศุภโชค แสงดอก ระหว่างที่ทำการบุกตรวจสอบยังพบไม้แปรรูปบางส่วน ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์กระบะ ส่วนไม้ท่อนและไม้แผ่น ซุกใต้ถุนบ้านและแปะติดไว้ทำเป็นฝาบ้านด้วย จึงยึดไว้ทั้งหมด พร้อมประสานให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป กรณีนี้ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ข้อหาทำไม้แปรรูปในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต