MORNING CALL ACTION NOTES (31 ส.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (31 ส.ค.60)

แวะพักเหนื่อย

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้อ่อนตัวเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรรอบสั้นหลังจากที่ดัชนีพุ่งขึ้นแรง 2 วันติดต่อกัน โดยส่วนใหญ่เป็นแรงขายในกลุ่ม PETRO COMAT กดดันให้ SET ปิดที่ 1,613.34 จุด (-0.80 จุด) Vol. 5.5 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +677 ลบ.  TFEX Net -10,035 สัญญา ตราสารหนี้ –1,195 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ปธน.ทรัมป์ย้ำเดินหน้าแผนลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 15% (จาก 35%) เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

+/- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ 51.7 (จาก 51.4 เดือนก.ค.) ส่วน PMI ภาคบริการ ปรับตัวลงสู่ 53.40

+ ตลาดหุ้น DJ  ปรับตัวขึ้นหลังตัวเลขประมาณการ GDP Q2/2560 ครั้งที่ 2 ของสหรัฐฯ +3.0% (สูงกว่าครั้งแรกที่ 2.6%) รวมถึงการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 237,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

+/- ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 45.9 US/Barrel จากความกังวลผลกระทบพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" ที่ทำให้โรงกลั่นหลายแห่งต้องปิดดำเนินงาน แม้ว่าตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 5.4 ล้านบาร์เรล

- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น เนื่องจากนลท.คลายความกังวลสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนเดือนส.ค.ขึ้นสู่ระดับ 111.9 (สูงสุดในรอบ 10 ปี)

+/- Foreign เป็น Net Buy 2 วันราว 5.5 พันลบ. แต่ตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. เป็น Net Sell 6 พันลบ. และเป็น Net Short TFEX 2 วันราว 6.5 หมื่นสัญญา

+/- FTSE Global Equity Index (Semi-Annual Review) Large Cap ถอด BH /Mid Cap เพิ่ม EA BH  / Small Cap เพิ่ม WORK  ถอด MBKET / FTSE All-World  เพิ่ม EA  /  FTSE All Cap เพิ่ม EA WORK ถอด MBKET เริ่มมีผล 15 ก.ย.

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากจากตัวเลขประมาณการณ์ GDP Q2/17 ครั้งที่ 2 ของสหรัฐดีกว่าคาด รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Buy 2 วันราว 5.5 พันลบ.  อย่างไรก็ตามการขึ้น XD ของหุ้นใหญ่หลายตัวเช่น PTT  PTTGC  RATCH รวมถึงภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะกดดันต่อภาวะตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,610 - 1,625 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   ซื้อเก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน  

- TASCO ราคายางมะตอยจีน +12% MoM ล่าสุด 2,852 Yuan/Ton

- กลุ่มรับเหมา ประมูลรถไฟรางคู่ 3 เส้นทางมูลค่าราว 5.5 หมื่นลบ.ในช่วง 2 สัปดาห์ (1 4 5 และ 7  ก.ย.)

- BANPU ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 97.4 US/Ton

- กลุ่มโรงกลั่น ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูงราว 7-8 US/Barrel

หุ้นแนะนำพิเศษ   

MTLS Analyst Meeting (ราคาปิด 33.50 Bloomberg Consensus 38.88)

Ø  ผลงาน 1H60 โดดเด่นมีกำไรสุทธิ 1,107 ลบ.+91%YoY Net  margin ทรงตัวในระดับสูงที่ 30% โดยมียอดสินเชื่อปล่อยใหม่ 2.6 หมื่นลบ. +65% (เกินเป้าที่ระดับ 50%) ลูกหนี้คงเหลือ 2.9 หมื่นลบ.+70%  %NPL ต่ำเพียง 1.18%  Coverage Ratio 267%  ปัจจุบันมีจำนวนสาขาครบตามเป้าทั้งปีที่ 2,200 สาขาแล้ว

Ø  ผู้บริหารปฏิเสธข่าวลือเรื่องผิดนัดชำระตั๋ว B/E+ต้องเพิ่มทุน เนื่องจาก 1) D/E ณ ปลายมิ.ย.60 ที่ 2.96 เท่าต่ำกว่าเพดาน D/E ระดับ 4 เท่า 2) Payout Ratio ต่ำเพียง 15% เพื่อเก็บเงินสดไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 3) มี bank credit line และกระแสเงินสดที่มีสภาพคล่องเพียงพอต่อการชำระหนี้

Ø  ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานที่ยังมีศักยภาพในการเติบโต ประสิทธิภาพในการทำกำไร และจัดการสภาพคล่อง  การดำเนินงานมีโอกาสทำได้ตามแผน กำไร 1H60 คิดเป็น 48% ของประมาณการ Bloomberg Consensus ที่เกือบ 2.3 พันลบ.+57%YoY  ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER 36 เท่า สูงกว่า PER กลุ่มที่ 16.8 เท่า อย่างไรก็ตาม คาด EPS growth ปี 60 ที่ราว 57% ทำให้ PEG อยู่ที่ระดับสูงถึง 0.63 เท่า แนะนำ ทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว

หุ้นมีข่าว 

Ø  รฟท.เลื่อนการประมูลรถไฟทางคู่ประจวบ-ชุมพร 2 สัญญา มูลค่า 1.25 หมื่นล้านบาทเป็นวันที่ 5 ก.ย.

Ø  ETE (ราคาปิด 3.18 ราคาเหมาะสม 5.06) แตกไลน์รับสร้างสนามยิงปืนไฮเทคชดเชยสื่อสารหด มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15-20% งานเอ๊าท์ซอร์สจ่อต่อสัญญาใน Q4/60 (ที่มาอินโฟเควสท์)    

Ø   (+) PTG (ราคาปิด 20.8 Bloomberg Consensus 26.50) อัดฉีดงบลงทุน 5,000 ล้านบาทต่อปี ใช้ขยายปั๊ม PT และเพิ่มสาขาธุรกิจ Non-oil อัพสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 60% เล็งซื้อกิจการ 2-3 แห่งต่อปี ขณะที่ประเมินค่าการตลาดครึ่งปีหลังฟื้นตัว หนุนผลประกอบการปีนี้มีโอกาสทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง (ที่มาทันหุ้น)    

Ø  ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการขยายจำนวนปั๊มของบริษัทเนื่องจากจะช่วยเพิ่มยอดค้าปลีกตามปั๊มน้ำมัน นอกจากนี้การที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นใน 3Q60 ทำให้ค่าการตลาดปรับตัวขึ้นจากต้นเดือนก.ค.ที่ 1.37 บาทต่อลิตรมาสู่ระดับ 1.67 บาทต่อลิตรเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการเพิ่มเติม

Ø  'TRUE' เจาะ TRUE ทำไมจึงแนะนำซื้อมองราคา 6.20 บาท โบรกชี้มีคลื่นความถี่ในมือมากที่สุดเมื่อเทียบคู่แข่ง ธุรกิจในเครือตอบโจทย์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 คาดพลิกกลับมา กำไรปี 2562 แถมมีไม้เด็ดเตรียมขายทรัพย์สินเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน จะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเงินของบริษัท  (ที่มา : ทันหุ้น)

Ø  ความเห็น แนวโน้มผลประกอบการที่ผ่านมาของ TRUE เริ่มบ่งชี้การพลิกเป็นกำไรครั้งแรกในรอบหลายปีที่ใกล้เข้ามา ไม่ว่าจะเป็น EBITDA ใน 2Q60 +37.8%YoY และเป็นผู้ประกอบการสัญญาณโทรศัพท์รายเดียวที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่อีก 2 รายปรับตัวลดลง ด้านราคาหุ้น Laggard คู่แข่งมาก เหมาะเข้า “ซื้อเก็งกำไร”

Ø  ATP30 (ราคาปิด 1.63 ซื้อ ราคาเหมาะสม 2 บาท) คาดกำไรปีนี้มากกว่าปีก่อนแม้หดตัวใน H1 แต่มองค่าใช้จ่าย H2 ไม่มากหนุน โดยรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและจะเติบโตได้ตามเป้าที่ระดับไม่ต่ำกว่า 15%

Ø  ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้ตามการเพิ่มจำนวนรถที่ให้บริการกับลูกค้าเดิมและการได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ประมาณการรายได้ปี 60 อยู่ที่ราว 346 ลบ. +15% และคาดกำไรราว 26.7 ลบ. +22% กำไร 1H60 ที่ 7.3 ลบ. คิดเป็น 28% ของประมาณการทั้งปีที่ 26.7 ลบ. โดยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ

Ø  ผถห.GSTEL ไม่อนุมัติโครงการแปลงหนี้เป็นทุนหลังเสียงโหวตรับไม่ถึง 75% ผู้บริหารเตรียมเริ่มกระบวนการชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อผลักดันแผนดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมอีกรอบภายในไตรมาส 4/60

AITAnalyst Meeting  (ราคาปิด 27  บาท Bloomberg consensus 29 บาท)

  • จากที่ประชุม ผู้บริหารยังคงเป้ารายได้ปี 60 อยู่ที่ 5 พันลบ.โดยจะมาจาก Backlog ปัจจุบัน 2.2 พันลบ.จากทั้งหมด 3.2 พันลบ. (ส่วนที่เหลือรับรู้ปี 61) และอีกราว 400 ล้านบาท จะมาจากงานประมูลในช่วงที่เหลือของปี อย่างไรก็ตาม ช่วง 2Q59 ที่ผ่านมา อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวลงค่อนข้างมาก ที่ 20.16% (จากปกติที่ 23 - 26%) หลักๆเกิดจากการรับรู้งานที่มีอัตรากำไรต่ำ อาทิ อินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน โดยยังเหลืองานส่วนนี้รับรู้ในงวด 3Q60 อีกราว 400 ลบ. (จากทั้งหมด 800 ลบ.)
  • ความเห็น แนวโน้ม Gross margin ของบริษัท น่าจะยังต่ำอยู่ต่อในงวด 3Q60 แต่เชื่อจะพลิกสู่ระดับปกติในงวด 4Q60 หลังจากรับรู้งานอัตรากำไรต่ำไปหมดแล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสกลับรายการหนี้สงสัยจะสูญบางส่วนจากการเจรจากับกระทรวงกีฬาฯราว 50 ลบ. ในสิ้นปีนี้ หนุนกำไรงวด 2H60 โดยแม้ Backlog ณ สิ้นปี 60 เหลือเพียง 1 พันลบ.น่าจะมีงานประมูลเพิ่มเติมช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้ามาเสริม ปัจจุบัน อยู่ระหว่างลุ้นงานบริการมูลค่าอีก 1 พันลบ.ซึ่งไม่รวมอยู่ในประมาณการ ทั้งนี้ คาดหวังเงินปันผลจาก AIT ได้ราวปีละ 6 - 7% "น่าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวเพื่อรับปันผล" หลังผ่าน 3Q60
  • XO (ราคาปิด 92 ราคาเหมาะสม 5.40) เร่งเครื่องปั๊มมาร์จิ้นโต 2 หลัก ส่องทิศทางครึ่งปีหลังได้สวย ออเดอร์ไหลเข้าเพียบ มั่นใจยอดขายมาตามนัดโต 5% พร้อมจัดทัพออกงานแสดงสินค้าต่างแดน (ที่มาทันหุ้น)
  • ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการยังถูกกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัวในระดับต่ำเพียง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ระดับ 34% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการย้ายโรงงานยังคงกดดัน ในระยะสั้นเราคาดว่าการเพิ่มยอดขายจากการเปิดตลาดในประเทศใหม่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปทำให้ใช้เวลาอีกระยะในการที่โรงงานแห่งใหม่จะใช้กำลังการผลิตถึงจุดคุ้มทุนยังเป็นปัจจัยกดดันต่อผลประกอบการใน 2H60
  • BIZ (ราคาปิด 3 ถือ ราคาเหมาะสม 4.80) เปิดทางพันธมิตรร่วมทุน เน้นธุรกิจในกลุ่มเดิมคาดชัดเจน 1-2 ปีนี้ แย้มเตรียมสรุปดีลขายเครื่องรักษามะเร็งในไตรมาส 3/2560 นี้ พร้อมตั้งเป้าปี 2561 ขายเครื่องรักษามะเร็งไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท มั่นใจผลงานปีหน้าโดดเด่น ปลื้มกองทุนใน-นอกสนใจ ขอข้อมูลเพียบ (ที่มาทันหุ้น)
  • ความเห็น เราคาดว่ากำไร 3Q60 จะเติบโตเล็กน้อยจาก 2Q60 เนื่องจากมีการส่งมอบเครื่องฉายรังสี 2 เครื่องราว 155 ล้านบาท แต่ในไตรมาส 4 คาดว่ากำไรจะปรับตัวลงอย่างมากเพราะยังไม่มีรายได้จากการส่งมอบเครื่องฉายรังสี ขณะที่รายได้ปี 61 หากเป็นไปตามที่ผู้บริหารคาดรายได้อาจจะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 60