ซีคสเตอร์รุก“บีทูบี”ดันยอดใช้จ่ายโต2เท่า

สเฮ็บ อนันต์ทรงวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งแอพพลิเคชั่น ซีคสเตอร์ (Seekster) กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวธุรกิจแพลตฟอร์มสื่อกลางการให้บริการประเภททำความสะอาดและการซ่อมแซมบ้าน,คอนโด และสำนักงานช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มีกลุ่มเป้าหมายประเภทธุรกิจต่อธุรกิจ (บีทูบี) เพียง 40% แต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไปได้วางกลยุทธ์เพิ่มกลุ่มลูกค้าธุรกิจมากขึ้น มีเป้าหมายสัดส่วน 80% ภายในปี 2561

เริ่มต้นจากการร่วมมือกับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ให้ซีคสเตอร์เข้าเป็นผู้ให้บริการเจ้าของคอนโดในเครือ กว่า 5 หมื่นยูนิต และหลังนี้จะใช้โมเดลดังกล่าวขยายสู่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบพันธมิตรอีก 2 ราย และทำคู่ขนานไปกับการนำเสนองานให้กับกลุ่มสำนักงานรวมถึงกลุ่มโรงแรมบูติคขนาดกลางและเล็กที่มีลักษณะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพเหมือนซีคสเตอร์ที่มีความต้องการแม่บ้านซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการจ้างแบบประจำ

การรุกกลุ่มธุรกิจมากขึ้นเนื่องจากมองว่ามีความสม่ำเสมอของรายได้ที่ลูกค้าจะใช้บริการเป็นระยะยาวหรือใช้ซ้ำ ต่างจากลูกค้ารายย่อยที่มีความอ่อนไหวด้านราคาสูง ประกอบกับเทรนด์ของการบริหารสำนักงานแนวใหม่จะมองหาวิธีลดต้นทุนด้านบริการ เช่น แม่บ้าน สอดคล้องกับบริการจัดหาแม่บ้านทำงานในลักษณะฟรีแลนซ์ของซีคสเตอร์ทำให้สำนักงานต่าง ๆ ที่ช่วยลดคาใช้จ่ายประจำของแม่บ้านเดือนละ 9,000-1.2 หมื่นบาท/คน ได้ 30-40%

ทั้งนี้บริษัทจะสร้างแพลตฟอร์มสำหรับกลุ่มบีทูบีหรืออสังหาริมทรัพย์ขึ้นมารองรับ และในอนาคตจะเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นที่บริษัทอนันดาเตรียมเปิดตัวเพื่อให้บริการลูกค้าผู้อยู่อาศัยภายใต้แนวคิดสมาร์ทลีฟวิ่ง โดยปัจจุบันบริษัทได้รับการระดมทุนจากเงินรางวัล 1.5 แสนดอลลาร์ (ราว4.9ล้านบาท) จากโครงการ Digital Ventures batch ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการขยายธุรกิจตามกลยุทธ์ดังกล่าว

ปัจจุบันยอดรวมการใช้จ่ายเพื่อรับบริการผ่านซีคสเตอร์อยู่ที่ 35-40 ล้านบาท โดยค่าบริการอยู่ที่ 449-1 หมื่นบาทต่อรายการ ซึ่งบริษัทคิดค่าคอมมิชชั่น 10-30% แต่เมื่อสิ้นสุดปี 2561 ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านแอพลิเคชั่นเป็น 2 เท่า

บริษัทยังเตรียมขยายบุคลากรผู้ให้บริการจาก 3,500 คนเป็น 1.5 หมื่นคน พร้อมเปิดศูนย์ฝึกอบรม รวมถึงการร่วมมือกับกลุ่มสินค้าที่มีการฝึกอบรมเชิงช่าง เช่น ไซโจเดนกิ เพื่อนำพนักงานไปฝึกเทคนิคการบริการ เป็นต้น

นอกจากนั้นมีแผนขยายไปต่างจังหวัดเริ่มที่ธุรกิจโรงแรมในจ.ชลบุรี จากนั้นจึงรุกจังหวัดใหญ่ รวมถึงเจาะกลุ่มลูกค้าที่ให้บริการบ้านพักผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในลักษณะแชริ่งโฮม เช่น แอร์บีแอนด์บี และอะโกด้าโฮม เป็นต้น ด้วยการเสนอบริการทำความสะอาดหลังลูกค้าเช็คเอาท์แทนเจ้าของบ้าน

ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริการดังกล่าวจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในเมืองซึ่งในอนาคตจะเน้นเทคโนโลยีในการเข้าถึงบริการรวมถึงกระแสเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ซึ่งจะได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งนี้ความร่วมมือกับซีคสเตอร์ในฐานะพันธมิตรเท่านั้น ไม่ได้เข้าร่วมลงทุนแต่อย่างใด

โจแซ่ด จรัญวัฒนากิจ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดซีคสเตอร์กล่าวว่า แม้จะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่ตั้งขึ้นในไทย แต่เชื่อว่ามีความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศเนื่องจากปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในบริการเฉพาะด้านแม่บ้านและช่างแอร์ ขณะที่มูลค่าของตลาดการให้บริการในกลุ่มทำความสะอาดและซ่อมแซมในไทยทั้งหมดสูงถึง 3.6 พันล้านบาท จึงมีโอกาสเติบโตได้อีก

“สตาร์ทอัพรายใหญ่ติดอันดับโลกซึ่งมีต้นกำเนิดจากฝั่งซิลิคอน วัลเลย์ ของสหรัฐ อาจจะรุกขยายตลาดมายังเอเชียและไทยมากขึ้นโดยใช้ข้อได้เปรียบด้านปริมาณของผู้ให้บริการในมือ แต่มองว่าสิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จคือการเข้าใจในวัฒนธรรมและสภาพธุรกิจมากกว่าซึ่งจะทำให้สตาร์ทอัพไทยได้เปรียบ ซึ่งที่ผ่านมามีกรณีศึกษาที่ชัดเจนเช่นอูเบอร์ซึ่งมีฐานตลาดใหญ่ในฝั่งตะวันตกแต่ในไทยกลับเป็นรองแกรบคาร์"