MORNING CALL ACTION NOTES (28 ส.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (28 ส.ค.60)

Selective buy

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวแคบเนื่องจากนลท.ชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อในกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูง  ส่งผลให้ SET ปิดทรงตัวที่ 1,575.85 จุด (-0.11 จุด)  Vol. 3.2 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -437 ลบ.  TFEX Net +20,526 สัญญา ตราสารหนี้ –2,313 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ดาวโจนส์ +30.27 จุด หลังประธานเฟดและECB มีมุมมองบวกต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจโลก แต่ยังไม่พูดถึงนโยบายการเงินในอนาคต

+ น้ำมัน + 44 เซนต์ หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐลดลง 4 แท่น ขณะที่พายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" เตรียมพัดถล่มแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก 

+ Spread ราคาน้ำมันเบนซิน +11.5%QTD จากราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวขึ้นจากเหตุการณ์พายุ “Harvey” ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันใน Texas ต้องหยุดทำการโดยคิดเป็นกำลังการกลั่นกว่า 10% ของสหรัฐฯ

- สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนดิ่งลง 6.8% ในเดือนก.ค. โดยทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014

+/- ศาลฯออกหมายจับ “ยิ่งลักษณ์” เพื่อนำตัวมารับฟังคำพิพากษาทุจริตโครงการจำนำข้าวในวันที่ 27 ก.ย. 60 และมีคำสั่งจำคุกอดีตรมต.ที่เกี่ยวข้องพร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายมูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท

+/- Foreign ยังเป็น Net Sell ต่อเนื่อง 5 วันราว 6 พันลบ. และตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. เป็น Net Sell 9.6 พันลบ. อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าล่าสุด 33.2 Bath/USD.

** 31 ส.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม Fund Flow ที่ขายติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ยังคงกดดันต่อดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,570 - 1,580 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   Selective Buy  

- กลุ่มรับเหมา ประมูลรถไฟรางคู่ 3 เส้นทางมูลค่าราว 5.5 หมื่นลบ.ในช่วง 2 สัปดาห์ (1  4 5 และ 7  ก.ย.)

- BANPU ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 97.5 US/Ton

- PDI ราคาสังกะสีทรงตัวในระดับสูงล่าสุด 3,102 US/Ton

- กลุ่มโรงกลั่น ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูงราว 7 – 8 US/Barrel ตามราคาน้ำมันเบนซินดีดตัวขึ้นแรง

 

หุ้นแนะนำพิเศษ   

BANPU (ราคาปิด 17.20 Bloomberg Consensus 21.93)

Ø  รายงานกำไร 1H60 ที่ 3.7 พันล้านบาท +3,674%YoY หลังราคาถ่านหินเฉลี่ย 1H60 ปรับตัวขึ้น 56%YoY  สู่ระดับ 80 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ต้นทุนการผลิตปรับตัวขึ้น 25%YoY สู่ระดับ 45 ดอลลาร์ต่อตัน

Ø  ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 97.5 ดอลลาร์ต่อตัน เนื่องจากจีนกีดกันไม่ให้นำเข้าถ่านหินในท่าเรือเล็ก และอุปทานจากอินโดนีเซียลดลงหลังฝนตกสูงสุดในรอบ 7 ปีทำให้ผลิตถ่านหินได้ลดลง นอกจากนี้สต็อกถ่านหินที่อินเดียปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งทำให้มีโอกาสเพิ่มการนำเข้าถ่านเพิ่มเติม

Ø  แม้ว่าเราจะคาดผลประกอบการ 3Q60 จะไม่โดดเด่นเท่า 2Q60 เนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้าอาจอ่อนตัวลงจากไตรมาส 2 เพราะโรงไฟฟ้าหงสามีหยุดซ่อมบำรุง 6 สัปดาห์และโรงไฟฟ้า BLCP หยุดซ่อมบำรุง 2 สัปดาห์ในปลาย 3Q60 แต่ราคาถ่านหินทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องจะเป็นตัวหนุนผลประกอบการ โดย Bloomberg คาดว่ากำไรปี 60 จะเติบโต 433%YoY สู่ระดับ 8.9 พันล้านบาท

หุ้นมีข่าว 

Ø  SAMART (ราคาปัจจุบัน 12.90 บาท Bloomberg Consensus 17.00 บาท) จากที่ประชุม ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.5 หมื่นลบ. จากธุรกิจตามกลุ่มดังนี้ คือ 1) SAMTEL คาด Backlog ณ สิ้นปี 2017 ทำ New High แตะ 1 หมื่นลบ. จากปัจจุบัน (สิ้นงวด 2Q60) ที่ 9.6 พันลบ. และงานประมูลใหม่ในงวด 3Q60 - 4Q60 ที่ 1.03  หมื่นล้านบาท ส่วนปี 61 มี Potential project กว่า 1.23 หมื่นล้านบาท 2) SIM ปรับธุรกิจจากมือถือสู่ธุรกิจบริการโทรคมนาคม โดยปัจจุบันมี 2 โครงการ คือ 1.Digital Trunked Network หรือวิทยุบนระบบดิจิตอล เงินลงทุนราว 2.4 พันลบ. โดยจะเริ่มมีรายได้ตั้งแต่ต้นปี 61 และ 2.Co-Tower  หรือเสาสัญญาณโทรศัพท์ในอุทยานแห่งชาติ เริ่มสร้างรายได้ต้นปี 61 3) OTO ลูกค้าภาครัฐฯหายไป 1 ราย คิดเป็นรายได้ราว 160 ล้านบาทต่อปี แต่เป็นลูกค้าที่มีอัตรากำไรต่ำมาก

Ø  ความเห็น ภาพรวมกลุ่มฯยังไม่เด่นแต่ SAMTEL น่ามีการเติบโตของกำไร แนะนำให้ติดตามผลงานประมูลงานของ SAMTEL อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปลายเดือน ก.ย. จนถึง สิ้นปี (3 งานใหญ่) ส่วน SIM น่าจะนังฉุดกลุ่มฯช่วงสั้น แต่โดยรวมคาดผลประกอบการใน 2Q60 จะเป็นจุดต่ำสุด โดยช่วงที่เหลือของปีอาจทยอยขาดทุนลดลง ล่าสุด SIM เพิ่มทุนแบบ RO อัตราส่วน 1:1 ราคา 0.50 บาท พร้อมแจก SIM-W1 อัตราส่วน 4 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 หน่วย XR วันที่ 3 ต.ค. 60

Ø  AMA มั่นใจงบครึ่งปีหลังโตแกร่ง รับไฮซีซั่นธุรกิจหนุนลูกค้าใช้บริการแน่น ดันรายได้ปี 60 พุ่งแตะ 1,500 ล้านบาท โตขั้นต่ำ 50% ตามเป้าหมาย (ที่มา : ข่าวหุ้น)

Ø  ความเห็น เชื่อว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีแล้วใน 2Q60 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายพิเศษ 11 ลบ. ขณะที่ครึ่งหลังรับผลเรือใหม่เต็มงวด นอกจากนี้ ล่าสุดยังเพิ่มกองรถบรรทุกต่อเนื่องมาอีก 10 คัน (3Q60 QTD) หนุนการกลับมาเติบโตต่อ ขณะที่ Valuation เต็มมูลค่าแล้วปีนี้ มองปีหน้ายังมี Upside แนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสม 19.40 บาท

ส่องหุ้น

  • TVD   แนวรับ 42 , 1.40 บาท  แนวต้าน 1.48 , 1.54 บาท ระดับราคามีความพยายามประคองตัวแกว่งตัวออกด้านข้างต่อเนื่อง 4 วัน และวอลุ่มค่อนข้างแห้ง หลังจากในช่วงต้นสัปดาห์มีการดีดกลับขึ้นมาแรงและปิดในระดับสูงมากโดยมีวอลุ่มซัพพอร์ตสูงมากๆ อีกด้วย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 1.42 บาทอีก หรือเต็มที่ไม่หลุดทำ New low ต่ำกว่า 1.40 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นได้อีกครั้ง โดยมีแนวต้านแถวๆ 1.48 บาทและ 1.54 บาท
  • STAR แนวรับ 10-7.05 บาท   แนวต้าน 7.25 , 7.45 บาทระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวัน และปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้นประกอบกับมีวอลุ่มเข้ามาวันแรกสูงมาก หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาไม่หลุดปิดต่ำกว่าแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 25 วันแถวๆ 7.10-7.05 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นขึ้นต่อได้แถวๆ 7.25 บาทและ 7.45 บาทต่อไป
  • MALEE แนวรับ 50-38.00 บาท  แนวต้าน 39.75-40.25 , 42.00 บาทระดับราคามีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องโดยขยับออกไปเล่นนอกกรอบ BollingerTop เล็กน้อย ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่สูงมากและ MACD ที่กำลังดีดกลับขึ้นมายืนเหนือศูนย์ใน 1-2 วันนี้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 38.50-38.00 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้แถวๆ 39.75-40.25 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบเดือนครึ่งแถวๆ 42.00 บาทต่อไป

Analyst Meeting : ORI (ราคาปิด 13.80 Bloomberg Consensus 16.57)

  • 1H60 มีกำไร 411 ลบ. +154%YoY โดยยังรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ดีมาก GP 4% เพิ่มขึ้นจาก 44.6% ใน 1H59 NP 20.3% เพิ่มขึ้นจาก 16.3% ใน1H59
  • ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 60 ราว 9,000 ลบ.+181% (6,000 ลบ. จากโครงการของบริษัท และ 3,000 ลบ. จากโครงการ Park 24) มี backlog รองรับแล้ว 100% เป้ารายได้ 2H60 7,000 ลบ. backlog ปลายงวด Q2/60 เท่ากับ 25,285 ลบ. ผลการดำเนินงานQ3/60 มีแนวโน้มเติบโตทั้ง QoQ และ YoY และน่าจะสูงสุดใน Q4 จากการเริ่มโอนโครงการ Park24 ในเดือนต.ค.
  • มูลค่าโครงการเปิดใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 หมื่นล้านบาทหลังมีพันธมิตร ได้แก่โนมูระเรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาฯจากญี่ปุ่น Q3/60 จะเปิดตัวคอนโดฯร่วมทุน 3 โครงการมูลค่ารวม 6.1 พันลบ.คาดจะโอนในปี 63 ในอนาคตจะเริ่มมีรายได้ประจำ (recurring income) จากธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์

ความเห็น ผลการดำเนินงานปีนี้มีโอกาสเติบโตสูงจากการรวมธุรกิจกับ พราวด์ เรสซิเดนซ์ซึ่งจะเริ่มโอนโครงการ park 24 ในไตรมาสสุดท้าย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 เฉลี่ย 1,563 ลบ. +145%YoY ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER 24 เท่าสูงกว่า PER กลุ่มที่ระดับ 16.7 เท่า แนะนำ ซื้อเก็งกำไร