‘บางจาก’ช้อปงานวิจัย เสริมทัพธุรกิจกรีนเทค

หมดยุคสมัยการขึ้นหิ้งของผลงานดีกรีรางวัลนานาชาติ “บางจาก” ออกโรงสนับสนุน 2 ผลงานจากเวทีสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา สู่การพัฒนาใช้ประโยชน์จริงทั้งชุดควบคุมการติดตามดวงอาทิตย์ 2 แกน จาก ม.ธรรมศาสตร์ และ ระบบแจ้งเตือนการทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์ จาก มทร.พระนคร

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยยแห่งชาติ (วช.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ กับบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2560 ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ในระยะแรกจะเป็นการนำผลงานที่ได้รับรางวัลจากการประกวดและจัดแสดงในเวทีสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติ ครั้งที่ 45 นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส จำนวน 2 ผลงาน คือ “ชุดควบคุมการติดตามดวงอาทิตย์ 2 แกน” จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ “ระบบแจ้งเตือนการทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์ในโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเพื่อให้ประสิทธิภาพการจ่ายไฟฟ้าสูงสุด” จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มาเป็นโครงการนำร่องในการขยายผลเพื่อการพัฒนาต่อยอดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่

ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ความสำเร็จของ 2 ผลงานนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการผลักดันและยกระดับให้ผลผลิตจากผลงานวิจัย ผลงานประดิษฐ์คิดค้นของคนไทยนำไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม อันเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทั้งเชิงเศรษฐกิจและสังคม ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ต่อไป
ทั้งนี้ วช.ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในระบบวิจัย โดยการสนับสนุนโอกาสและสร้างแรงจูงใจ ให้กับบุคลากรในการวิจัย ในกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การสนับสนุนการนำเสนอผลงานวิจัย และผลงานประดิษฐ์คิดค้นในเวทีนานาชาติ และระดับนานาชาติ การสนับสนุนผลงานวิจัย และผลงานประดิษฐ์คิดค้น ให้ขึ้นบัญชีสิ่งประดิษฐ์ไทย และพัฒนาต่อยอดเพื่อประโยชน์สู่เชิงพาณิชย์

นอกจากนี้ วช.ได้พยายามส่งเสริมให้ผลงานที่ผ่านกิจกรรมเหล่านี้ สามารถถูกผลักดันไปสู่การใช้ประโยชน์ ได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งผู้ใช้ในภาครัฐและภาคเอกชน อาทิเช่น การสร้างความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการนำส่งผลงานวิจัยในบัญชีสิ่งประดิษฐ์ไทยและบัญชีนวัตกรรมไทยทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขไปสู่กระทรวงงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ใช้งานโดยตรง

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บางจาก กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการตอบโจทย์ที่บริษัทเอกชนต้องการที่จะมีนวัตกรรมทางด้านผลิตภัณฑ์ การบริการและกระบวนการผลิต
ขณะที่หน่วยงานวิจัยต่างๆ ต้องการงานวิจัยที่สามารถใช้งานได้จริงและช่วยสร้างความยั่งยืนซึ่งกันและกันระหว่างองค์กรทั้ง 2 ประเภท รวมทั้งสร้างเครือข่ายระหว่างนักวิจัยและภาคธุรกิจ ในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ อย่างยั่งยืน

ในส่วนของบางจากได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจหรือ Bangchak Initiative and Innovation Center : BIIC ซึ่งจะไม่ได้เน้นในส่วนของการวิจัยพัฒนาภายในองค์กร แต่ต้องการที่จะทำงานร่วมกันกับสถาบันต่างๆเน้นให้สามารถต่อยอดงานวิจัยและสุดท้ายนำไปสู่การให้ทุนในลักษณะของเงินตั้งต้น เพื่อที่จะได้ทำเป็นธุรกิจต่อๆ ไป ในขณะนี้ ธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีสีเขียวหรือกรีนเทค จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่บางจากให้ความสำคัญ ทั้งทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพและพลังงานไฟฟ้าสีเขียว โดยมุ่งเน้นในส่วนของการพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่า เพื่อที่มุ่งมั่นไปสู่บริษัทนวัตกรรมสีเขียวชั้นนำในเอเชีย รองรับการพัฒนาทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

“เรามีความพร้อมทางด้านทรัพยากร ทั้งบุคลากร สถานที่และเงินทุน ที่จะสามารถทำหน้าที่ร่วมกับคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ในการสร้างระบบนิเวศที่จะช่วยขับเคลื่อนงานวิจัยให้ใช้งานได้จริง และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ โดยเฉพาะนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้เกิดผลสำเร็จได้อย่างยั่งยืน” นายชัยวัฒน์ กล่าว