สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ 21-25 สิงหาคม 2560

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ 21-25 สิงหาคม 2560

“เงินบาทอ่อนค่า ก่อนจะลดช่วงติดลบปลายสัปดาห์ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นเกือบตลอดสัปดาห์”

Foreign Exchange Market

- เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลง ท่ามกลางแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ จากนักลงทุน หลังจากที่ ธปท. ขอให้สถาบันการเงินติดตามการทำธุรกรรมเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ ซึ่งก็เป็นทิศทางที่สอดคล้องกับแรงขายสุทธิทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ โดยเงินบาทอ่อนค่าไปที่ระดับ 33.37 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ของผู้ส่งออก  

- สำหรับในวันศุกร์ (25 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับ 33.21 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (18 ส.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (28 ส.ค.-1 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.20-33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามการตอบรับของตลาดในช่วงต้นสัปดาห์ต่อสัญญาณจากประธานเฟด (จากสัมมนาประจำปีของเฟดที่แจ็คสัน โฮล) รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนี PMI ภาคการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ข้อมูลรายได้/การใช้จ่ายส่วนบุคคล เดือนก.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย. และตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 2/2560 (ประกาศครั้งที่ 2) นอกจากนี้ นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของประเทศชั้นนำอื่นๆ ด้วยเช่นกัน 


Stock Market

- ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นตลอดสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,575.85 เพิ่มขึ้น 0.59% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 7.22% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 35,682.43 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 535.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.26% จากสัปดาห์ก่อน

- ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนเข้ามาต่อเนื่องเกือบตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร ท่องเที่ยว และโรงพยาบาล ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ที่ออกมาดีกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี  กรอบการปรับขึ้นของดัชนี SET เริ่มจำกัดลงตั้งแต่ในช่วงกลางสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายมากขึ้นของนักลงทุนต่างชาติ สัญญาณการทำกำไรในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศ 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (28 ส.ค.-1 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,565 และ 1,555  จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,580 และ 1,590 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาส 2/2560 และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. ของสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญอื่นๆ ได้แก่ รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนี ISM ภาคการผลิตสำหรับเดือนส.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของกลุ่มยูโร, ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค. ของจีน และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ของญี่ปุ่น