วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (23 ส.ค.60)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (23 ส.ค.60)

ราคาน้ำมันดิบฟื้นหลัง API ประกาศปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐ ปรับลดราว 3.6 ล้านบาร์เรล

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มหลังสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) ประกาศปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันทื่ 18 ส.ค. ปรับลดลง 3.6 ล้านบาร์เรลมาปิดที่ 465.6 ล้านบาร์เรลแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ การปรับลดลงใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าไว้ที่ระดับ 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮม่า ปรับลดลงในระดับที่น้อยกว่าหรือราว 462,000 บาร์เรล  สาเหตุหลักมาจากการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐ ที่ปรับลดลงราว 81,000 บารเรล มาอยู่ที่ระดับ 7.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- แม้ว่าโรงกลั่นน้ำมันดิบในสหรัฐ จะลดการดำเนินการผลิตลงราว 73,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐ กลับปรับเพิ่มรวม 3.4 ล้านบาร์เรล แสดงถึงความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปของสหรัฐ ที่อ่อนตัวลง

- อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นไปมากนัก เนื่องจากแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศลิเบีย เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบที่มีกำลังการผลิต 280,000 บาร์เรลต่อวัน อีกหลังประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) จากการถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายปิดล้อมตั้งแต่วัน 20 ส.ค. ที่ผ่านมา

+ ผู้ค้าน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินมีความกังวลเกี่ยวสภาพอากาศที่แปรปรวนจากพายุฤดูร้อน Harvey บริเวณอ่าวเม็กซิโก ที่มีโอกาสพัฒนาเป็นพายุเฮอร์ริเคนในช่วงปลายสัปดาห์และส่งผลให้เกิดดินถล่มในแถบชายฝั่งเท็กซัส ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขุดเจาะน้ำมันดิบและโรงกลั่นน้ำมันตลอดชายฝั่ง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดน้ำมันเบนซินฝั่งสหรัฐ ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม อุปทานในภูมิภาคยังค่อนข้างตึงตัว จากการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉิน

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการในภูมิภาคค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูมรสุม ประกอบกับอุปทานส่วนเกินจากตะวันออกกลางและอินเดียยังคงกดดันตลาด


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

        ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ คาดจะปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน หลังโรงกลั่นในสหรัฐ คงกำลังการกลั่นอยู่ในระดับสูงสุดต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศและภูมิภาค รวมถึงการนำเข้าน้ำมันดิบที่คาดจะปรับลดลง

- ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคที่พยายามเพิ่มความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศลดการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ก.ย.60 ลง ในขณะที่อิรักปริมาณการส่งออกในเดือน ส.ค. มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยจากข้อมูลของ Reuters พบว่าปริมาณการส่งออก 14 วันของเดือน ส.ค. ปรับลดลง 80,000 บาร์เรลต่อวันมาอยู่ที่ระดับ 3.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน แสดงให้เห็นว่าอิรักมีแนวโน้มทำได้ตามข้อตกลงมากขึ้น

- จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียที่เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มกลับมาส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ โดยล่าสุดไนจีเรียคาดปริมาณการผลิตและส่งออกจะเพิ่มขึ้น หลังมีการประกาศยกเลิกเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) สำหรับการส่งออกน้ำมันดิบ Bonny Light กำลังการผลิต 200,000 บาร์เรลต่อวัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา


------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

โทร.02-797-2999