MORNING CALL ACTION NOTES (23 ส.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (23 ส.ค.60)

เขียวตามรอบบ้าน

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อกลุ่ม BANK FIN หลังราคาอ่อนตัวลงมาจน Valuation น่าสนใจ รวมถึงกลุ่มโรงกลั่นจากค่าการกลั่นที่ทรงตัวสูง หนุนให้ SET ปิดที่ 1,573.19 จุด (+3.57 จุด) Vol. 3.6 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -678 ลบ. TFEX Net +6,483 สัญญา ตราสารหนี้ +889 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ พุ่งขึ้นแรง จากความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีซึ่งน่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสง่ายกว่ากฎหมายประกันสุขภาพ

+ ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น จากความคาดหวังว่า นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB อาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

+/- ราคาน้ำมันทรงตัวล่าสุด 47.7 US/Barrel จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะลดลงติดต่อกัน 8 สัปดาห์

+/- Fund Flow ต่างชาติผันผวน ล่าสุดเป็น Net Sell 2 วันราว 1.7 พันลบ. และตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. เป็น Net Sell 5.3 พันลบ.

- ครม.ไฟเขียวอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ เครื่องดื่มโดนหนัก น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชาเขียว และเครื่องดื่มชูกำลังเสียภาษีเพิ่มลิตรละ 1 บาท (ข่าวหุ้น)

** วันนี้ตลาดหุ้นฮ่องกงระงับการซื้อขายภาคเช้าจากพายุไต้ฝุ่น "ฮาโตะ"

** 24-26 ส.ค.ติดตามการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดหัวข้อ "Fostering a Dynamic Global Economy" โดยจะมีการหารือในประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ

** 25 ส.ค. ศาลฯนัดฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว+คดีจีทูจี

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ sentiment เชิงบวกจากการปรับตัวขึ้นแรงของตลาดหุ้นรอบบ้านจากความคืบหน้ามาตรการปฎิรูปภาษีของสหรัฐ รวมถึงความคาดหวัง ECB อาจส่งสัญญาณทิศทางนโยบายการเงินในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงผันผวนจะเป็นแรงกดดัน ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,580 จุด

กลยุทธ์การลงทุน ซื้อเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มรับเหมา ประมูลรถไฟรางคู่ 3 เส้นทางมูลค่าราว 5.5 หมื่นลบ.ในช่วง 2 สัปดาห์ (31 ส.ค. , 1 , 4 และ 7 ก.ย.)

- TASCO ราคายางมะตอยในจีน +12% MoM ล่าสุด 2,852 CY/Ton

- PDI ราคาสังกะสีสูงสุดในรอบ 9 ปีล่าสุด 3,143 US/Ton

- กลุ่มโรงกลั่น ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูงราว 6 – 7 US/Barrel

- SYNEX COM7 SIS MGT กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า



หุ้นแนะนำพิเศษ

TRUE (ราคาปิด 5.25 Bloomberg Consensus 6.37)

- จากที่ประชุม ผู้บริหารยังคงเป้าหมายการเติบโตรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 16 - 20% YoY แม้ 1H60 จะมีการเติบโตที่ 12%YoY โดยมองว่างวด 2Q60 เป็นช่วง Low season ของธุรกิจ และน่าจะกลับมาเติบโตเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ปัจจุบัน ยังคงเน้นการลดค่าใช้จ่ายส่วนเกินของบริษัทอย่างต่อเนื่อง พร้อมไปกับการใช้ Big Data เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าอย่างเจาะลึก เพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดและการพัฒนาบริการมากขึ้นจากเดิมที่เป็นแบบ Mass ไปสู่ระดับตำบล โดยคาดหวังโอกาสในการพลิกกลับมาเป็นกำไรครั้งแรกราวช่วงปลายปี 61

- ความเห็น แม้เป็นผู้เล่น 1 ใน 3 ราย ที่ขาดทุนมาอย่างยาวนาน แต่ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (2Q60 มี Subscribers เพิ่มขึ้น 4.24 แสนราย จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อเทียบอีก 2 รายที่เหลือ รวมลดลง 8.8 แสนราย) สะท้อนความสามารถในการแข่งขันด้วยการเป็นผู้นำ 4G หนุนให้ True น่าจะทยอยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ด้านราคาหุ้นปรับตัวลดลง 26.5% YTD (เทียบ ADVANC +23% และ DTAC +43%)

หุ้นมีข่าว

COMAN Analyst Meeting

- รายงานกำไร 1H60 ที่ 8 ล้านบาทหดตัว 94%YoY เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลงจาก 75.5% ใน 1H59 สู่ 52.7% จากการซื้อ software ของบริษัทย่อย MSL ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารปรับตัวขึ้นราว 4 ล้านบาทสู่ 17 ล้านบาทจากค่าใช้จ่ายในการทำดีล M&A และค่าใช้จ่าย one time

- ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20%YoY สู่ระดับ 160 ล้านบาทจากการขยายตัวของธุรกิจ software โรงแรมและธุรกิจ software ร้านอาหาร (บริษัท Synature ที่เพิ่งทำดีล M&A ใน 2Q60) โดยคาดว่า 2H60 บริษัทจะเปิดตัว software สำหรับโรงแรม 1-3 ดาวโดยคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนเดือนละ 3,000 บาทเพื่อขยายสู่ตลาด Mass มากขึ้น และรับรู้รายได้มากกว่า 1H60 เนื่องจากเข้า High season

- ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q60 เนื่องจากเป็นช่วง low season และมีการรับรู้ค่าใช้จ่าย M&A ไปแล้วบางส่วน โดยคาดว่าผลประกอบการจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นเนื่องจากรับรู้รายได้ของบริษัท Synature เต็มไตรมาส โดยคาดว่า 3Q50 จะมีค่าใช้จ่าย M&A อีก 2 ล้านบาทคอยกดดันผลประกอบการ อย่างไรก็ตามคาดว่า 4Q60 ผลประกอบการจะแตะระดับสูงสุดในปีนี้เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่าย M&A และรายได้เข้าสู่ High season

- PTT กางแผนส่ง Jiffy เสียบแทน 7-11 ในสถานีบริการน้ำมัน หลัง 7-11 จ่อหมดสัญญาใน 6 ปีข้างหน้า พร้อมวางเป้าขยายร้าน Jiffy แตะ 200 แห่งในปี 65 พร้อมมอบสิทธิ์จำหน่ายแฟรนไชส์ Jiffy ให้ PTTLAO เพื่อบุกตลาดลาวเต็มกำลัง (ที่มาข่าวหุ้น)

- ความเห็น จากการสอบถามไปยังบริษัทยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องการต่อสัญญากับ 7-11 เนื่องจากเหลือระยะเวลาอีก 6 ปี นอกจากนี้การขยายสาขาของ Jiffy ภายในปั๊ม PTT ยังติดสัญญาที่ทำกับ 7-11 ทำให้ขยายสาขาได้จำกัด

(+) TM (ราคาปิด 3.1 ถือ ราคาเหมาะสม 3.78) ปลื้ม "ไทยพาณิชย์" ปล่อยกู้ 130 ล้านบาท เสริมสภาพคล่อง สำหรับก่อสร้างอาคารสำนักงาน และโชว์รูมแสดงสินค้าแห่งใหม่ ด้าน FA ยืนยันช่วยลดภาระดอกเบี้ย D/E ยังอยู่ในระดับเหมาะสม (ที่มาทันหุ้น)

(+) PTTEP เล็งยื่นประมูลแหล่งปิโตรเลียมบงกช-เอราวัณ ครึ่งปีหลังมั่นใจได้เปรียบคู่แข่ง คาดแนวโน้มปริมาณการขายเฉลี่ยทั้งปี อยู่ที่ราว 3 แสนบาร์เรลต่อวัน แย้มกระแสเงินสดในมือเพียบกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมรุกซื้อกิจการแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังขยายธุรกิจและสำรองปริมาณน้ำมันรองรับอนาคต (ที่มาทันหุ้น)

(+) จับตา CK-BEM ตัวเต็งฮุบงานมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง บางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) มูลค่ารวม 6.1 หมื่นล้านบาท หลัง ครม.ไฟเขียวให้เอกชนร่วมลงทุน กำหนดให้แล้วเสร็จในปี 2563 (ที่มาทันหุ้น)

- KBANK (ราคาปิด 194.5 Bloomberg Consensus 199.88) เผยทางการจีนไฟเขียวจดทะเบียนตั้ง"ธนาคารกสิกรไทย(ประเทศจีน)" มีทุนจดทะเบียน 3 พันล้านหยวน หรือราว 1.5 หมื่นล้านบาท โดยธนาคารถือหุ้น 100% คาดเปิดดำเนินการ ต.ค.นี้

      ความเห็น เป็นไปตามแนวทางของธนาคารขนาดใหญ่ที่ต้องปรับตัวเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในยุคปัจจุบัน การมีสาขาในจีนเอื้อต่อลูกค้าในการทำธุรกรรมที่จีน ด้านผลการดำเนินงานปีนี้มีแรงกดดันจาก NPL ทำให้กำไรแทบไม่เติบโตจากปีก่อน Bloomberg Consensus คาด 4.06 หมื่นล้านบาท +1%YoY อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นที่ปรับลงมาพอสมควรจากประเด็นลบเรื่อง NPL แต่ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/BV 1.4 เท่ายังสุงกว่ากลุ่มที่ระดับ 1.19 เท่า แนะนำทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

- BAY กรุงศรีคอนซูมเมอร์ เปิดตัวดิจิทัลแบงก์กิ้งแพลตฟอร์ม KMA หลังเดินหน้าปรับโฉมใหม่ มั่นใจก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งได้ คาดมีผู้ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นปีนี้ 1.5 ล้านคน และปี 61 กว่า 2.5 ล้านคน

- HOTPOT ปรับแผนเพิ่มทุนใหม่ ขาย RO จำนวน 40.6 ล้านหุ้น อัตรา 10:1 ที่หุ้นละ 1.50 บ.,ไม่ขาย PP

- ครม.ไฟเขียวอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ เครื่องดื่มโดนหนัก น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชาเขียว และเครื่องดื่มชูกำลังต้องเสียภาษีเพิ่มลิตรละ 1 บาท หุ้น ICHI, OISHI และ SAPPE กระทบมากสุด (ข่าวหุ้น)


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +196.14 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,899.89 จุด พุ่งขึ้น 196.14 จุด หรือ +0.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,452.51 จุด เพิ่มขึ้น 24.14 จุด หรือ +0.99% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,297.48 จุด เพิ่มขึ้น 84.35 จุด หรือ +1.36% ขานรับรายงานที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และแกนนำสภาคองเกรส มีความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มนโยบายการเงินในอนาคต

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.27 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 47.64 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้

TFG ราคาปิด 5.75 บาท Bloomberg Consensus 6.07 บาท

- กำไร Q2/17 ที่ 609 ลบ. (+339%QoQ แต่ -9%YoY) นำโดยปริมาณและราคาขายไก่ที่เพิ่มขึ้นมาก (ในขณะที่ปริมาณขายหมูมากขึ้นแต่ราคาขายต่ำลง) ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 6.2 พันลบ.(+6%QoQ และ +23% YoY) นอกจากนี้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การขายไปสู่ตลาดส่งออกโดยเฉพาะญี่ปุ่น , Food Service มากขึ้น ซึ่งหนุนให้บริษัทมี Gross Margin ดีขึ้นสู่ระดับ 17% (จาก 8%ใน Q1/17)

- ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ในช่วง 2H17 จะยังคงขยายตัวได้ดี เนื่องจากบริษัทมีการบุ๊คราคาส่งออกไก่ไว้ล่วงหน้าแล้วในช่วง Q3-Q4/17 ซึ่งราคาดีกว่าในช่วง Q2/17 อีกทั้งบริษัทจะมีกำลังการผลิตมากขึ้นจากโรงงานใหม่ที่ขอนแก่นและชลบุรี นอกจากนี้ราคากากถั่วเหลืองทรงตัวระดับต่ำจะช่วงหนุนต่อ Gross Margin อีกด้วย ทั้งนี้ Bloomberg คาดกำไรปี 2017 ที่ 1.8 พันลบ. (+29% YoY)

- สำหรับเป้าปี 2018 ผบร.คาดว่าการผลิตไก่จะเพิ่มขึ้น 20% และหมูเพิ่มขึ้น 10 -15% ส่วนด้านราคาไก่และหมูผบร.คาดว่าจะทรงตัวหรือดีขึ้นกว่าในปี 2017