JMT - ซื้อ

JMT - ซื้อ

อัพเดทบริษัท เติบโตอย่างไร้ขอบเขต

ประเด็นการลงทุน

เรามีมุมมองในเชิงบวกสำหรับ JMT และสนับสนุนให้ซื้อ จากสมมติฐานการเติบโตที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นผลมาจาก 1)บริการเก็บหนี้เสียสำหรับลูกค้าของธนาคารและลูกค้าที่ไม่ไช่ของธนาคาร 2)การซื้อหนี้มาบริหาร (ซื้อที่ส่วนลดมากถึง 95-96%จากมูลหนี้) ด้วยคาดการณ์ ROI ประมาณ 24-25% ในปี 2560-63 และ 3)โอกาสที่จะโตทั้งการเติบโตตามปกติ
ของธุรกิจและการเติบโตจากการซื้อกิจการ (ปัจจุบันกิจการมี D/E 1.2 เท่า ต่ำกว่าเพดานหนี้ที่ 3เท่า) เราคงเป้าหมายราคาของ JMT ปี 2560 อยู่ที่ 37บาท โดยอ้างอิงจากค่าPEG ที่ 1 เท่า(อ้างอิงจากอัตราเติบโตกำไรเฉลี่ยต่อปี ที่ 39% ในปี 2560-61)

คงเป้าจะซื้อหนี้เสีย30พันล้านบาทปีนี้

JMT คงเป้าจะประมูลสินเชื่อรายย่อยที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และไม่มีหลักประกัน (หนี้ส่วนบุคคลและหนี้เครดิตการ์ด) 15พันล้านบาทจากธนาคารในครึ่งหลังของปี2560หลังจากซื้อหนี้เสียมาทั้งสิ่น11พันล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี2560 ปัจจุบันยอดรวมหนี้ที่บริษัทซื้อไว้อยู่ที่ 119 พันล้านบาทในปลายเดือนมิถุนายน 2560 เพิ่มขึ้น 10%จากต้นปีถึงปัจจุบัน เราเชื่อว่ายอดรวมหนี้เสียที่บริษัทซื้อจะถึง140พันล้านบาทในปลายปี2560สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทที่จะประมูลในเชิงรุกในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้กิจการแตกธุรกิจไปยัง การซื้อสินเชื่อที่มีหลักประกันนี้มาบริหาร บริษัทวางแผนที่จะเลือกประมูลหนี้เสียที่มีหลักประกัน (สินเชื่อบ้าน สินเชื่อโรงแรมและสินเชื่อโรงงาน) จากจำนวนที่นำเสนอ 200พันล้านบาท ในครึ่งปีหลังของปี2560 ผลดังกล่าวจะทำให้ JMT มีการกระจายธุรกิจจากที่ซื้อแค่หนี้ไม่มีหลักประกันไปเป็นการซื้อหนี้ที่มีหลักประกัน ซึ่งสามารถทำให้บริษัทมีรายได้มากขึ้นในอนาคตในเรื่องผลตอบแทนและค่าธรรมเนียมที่มากขึ้น

ขยายธุรกิจรับตามหนี้ในกัมพูชาและธุรกิจประกัน

JMTเตรียมที่จะขยายธุรกิจการรับติดตามหนี้ไปยังกัมพูชา ณ ปัจจุบันบริษัทได้จัดตั้ง JMT (Cambodia) Coที่เมืองพนมเปญ ด้วยความชำนาญในด้านติดตามหนี้ของบริษัททำให้เป็นโอกาสอันดีที่จะขยายธุรกิจเนื่องจากการแข่งขันในกัมพูชานั้นไม่ค่อยสูงอีกและมีงานในมือเบื้องต้น 300 ล้านบาท ทั้งบริษัทยังได้ปฎิรูปธุรกิจประกันผ่านออนไลน์
เพื่อที่จะรองรับลูกค้าของกลุ่ม JMART สำหรับการซื้อสินค้าและบริการเช่นมือถือและการปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกัน (ซึ่งปกติแล้วกิจการมีมาตรการในการป้องกันความเสียหายต่อสินค้า และหรือหลักประกันที่นำมาค้ำสินเชื่อ) ดังนั้นทุกๆการปล่อยสินเชื่อหรือการขายสินค้าจะต้องมีการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันจาก JMT โดยเรายังไม่รวมผลดีนี้ในประมาณการกำไรปีหน้า

อัตราD/E ต่ำมากและสนับสนุนการขยายธุรกิจ โดยไม่ต้องเพิ่มทุน

ปัจจุบัน JMTมีอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสิทธิอยู่ที่ 1.2xต่ำกว่าอัตราเงื่อนไขเพดานการกู้หนี้ที่ 3.0xทำ ให้ JMTสามารถปล่อยสินเชื่ออย่างมากได้ถึงหลายๆปีโดยที่ทุนไม่เพิ่มขึ้น อีกทั้งอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสิทธิที่ต่ำยังทำให้บริษัทสามารถใช้เงินทุนในการต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้เช่นการขยายตลาดไปยังเพื่อนบ้าน หรือกลุ่ม CLMV ในปีหน้า