Retail Market Monitor (22 ส.ค.60)

Retail Market Monitor (22 ส.ค.60)

เลือกเก็งกำไรรายตัว ระหว่างตลาดลังเลระหว่าง อยากเสี่ยง (Risk-on) / กลัวเสี่ยง (Risk-off)

ตลาดช่วงสั้นมีบรรยากาศของภาวะระมัดระวังจากความเสี่ยง (risk off) หลังสหรัฐฯและเกาหลีใต้ประกาศความร่วมมือซ้อมรบ 10 วัน ส่งผลให้เงินบางส่วนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย เห็นได้จาก ทองคำที่ปรับขึ้น และเงินเยนแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าภาวะดังกล่าวมีผลบางส่วนมาจากนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มความระมัดระวังก่อนการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ระหว่าง 24-26 ส.ค. ซึ่งนักลงทุนบางส่วนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจและภาวะการลงทุน การแกว่งของตลาดจึงเกิดจากภาวะกลัว (Riskk-off) สลับกับภาวะอยากเสี่ยง (Risk-on) ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบ กลยุทธ์เราเน้นเลือกหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาด ได้แก่ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดลงของสินค้าโภคภัณฑ์ (โดยเฉพาะถั่วเหลือง) GFPT CPF / โรงกลั่น (ค่าการกลั่นสูงและการปิดซ่อมโรงกลั่นใหญ่) BCP IRPC / ถ่านหิน (ราคาถ่านหินเข้า high season) BANPU LANNA* / กลุ่มเดินเรือ (ค่าระวางเข้า high season) TTA* PSL* RCL* / หุ้นที่ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้นอย่างกลุ่มประกัน อาทิ TIP* BLA*

ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดยังไม่กลับเป็นบวกหากไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1570-1575 จุด การเก็งกำไรเลือกหุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย ราคาไม่แพงเกินไป และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในไตรมาส 3/60 การเก็งกำไรเน้นเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำ TPOLY*, TK* //ประเด็นเก็งกำไร TTA*, TIP*

ประเด็นการลงทุน

โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันย่อตัวจากแรงขายทำกำไร / โลหะทรงตัว / ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลงจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1266.00 จุด (+0.48%) / ราคาถ่านหิน (Newcastle) ปิดที่ 98.35 เหรียญ/ตัน (+0.05%)

กำไรบจ.ไตรมาส 2 ลดลง 9.5% - ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET 572 บริษัท หรือ 94.55% จากทั้งหมด 605 บริษัท ส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2560 มีกำไรสุทธิ 225,668 ล้านบาท ลดลง 9.54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขาย 2,703,884 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.24%

ปรับเพิ่ม GDP ไทย ปี 2560 – สภาพัฒน์ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2560 จาก 3.3-3.8% เป็น 3.5-4.0% หลังเศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัวได้ถึง 3.7% สูงสุดในรอบ 17 ไตรมาส

สินค้าเกษตร – สศก.ระบุดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือน ก.ค. พุ่ง 15.38% เหตุสินค้าหลายชนิดออกสู่ตลาดเป็นปริมาณที่มาก แม้ส่งผลให้ราคาปรับตัวลง และดัชนีรายได้เกษตรกรหดตัว 2.64% แต่เชื่อว่าภาพรวมจะทำให้กำลังซื้อกลับมาโดยเฉพาะหลังการเก็บเกี่ยวข้าวในไตรมาส 4

เก็งกำไรเงินบาท – ธปท.เผยเห็นสัญญาณการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่หนาแน่นกว่าปกติในบางช่วง จึงขอความร่วมมือให้สถาบันการเงินรายงานข้อมูลเพิ่มเติม โดยหาก ธปท.พบเห็นพฤติกรรมการโอนเงินบาทระหว่างบัญชีของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (Non-resident) ที่ผิดปกติซึ่งอาจโยงกับการเก็งกำไร อาจพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่จำกัดโอกาสการเก็งกำไรค่าเงินบาท

ประเด็นติดตาม: 21-22 ส.ค. – ประชุมครม.สัญจร / 25 ส.ค. – ประชุมที่ Jackson Hole / 25 ส.ค. – ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าว / 31 ส.ค. - ธปท.ผลักดันมาตรฐานกลาง QR code เพื่อการชำระเงิน /16 ก.ย. ภาษีสรรพสามิตใหม่

แนวรับ 1563/แนวต้าน : 1575 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)

หุ้นแนะนำ

• TPOLY* (5.20) : ผลการดำเนินงานฟื้นตัวจากทั้งงานก่อสร้าง และรายได้ขายไฟจากการถือหุ้น 41% ใน TPCH ราคาปัจจุบันซื้อขายใกล้กับ NAV 4.73 บาท ที่คิดจาก TPCH ที่ 16.20 บาท หรือเท่ากับได้ธุรกิจรับเหมาฟรี (อ้างอิง TPCH ที่ 22 บาท NAV ของ TPOLY อาจสูงถึง 6.42 บาท)

• TK* (15) : บริษัทมีแนวโน้มปรับเพิ่มเป้าการเติบโตขึ้นจากระดับ 10% ซึ่งหากเกิดขึ้นจะเป็นการปรับเพิ่มเป้ารอบที่ 2 ของปีนี้ และคาดได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อโดยเฉพาะจากข้าว

• ประเด็นลงทุน: TTA* (ดัชนี BDI เข้าสู่ช่วง high season และคาดผลการดำเนินงานฟื้นตัว และบริษัทมีแถลงข่าวผลการดำเนินงานวันนี้ 17 ส.ค.) / TIP* (ราคาปัจจุบันซื้อขายที่เพียง 8.4x PER ขณะที่ปันผลทั้งปีราว 6% โดยคาดจ่ายระหว่างกาล 0.75-1.00 บาท หรือคิดเป็น Div Yield 1.7-2.2%)