ตลาดเล็งส่งสัญญาณ 'บจ.ไร้คุณภาพ'

ตลาดหลักทรัพย์เตรียมออกมาตรการแจ้งเตือนบริษัทมีส่วนผู้ถือหุ้นลดลงต่อเนื่อง หวังเพิ่มเครื่องมือให้ผู้ลงทุน จับสัญญาณคุณภาพบริษัท คาดได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ แจงเหตุปลด SP เพซ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ให้ผู้ลงทุนตระหนักถึงปัญหาของบริษัท คงเครื่องหมาย NP จนกว่าก.ล.ต.จะหมดข้อสงสัย ยันบริษัทจดทะเบียนไทยยังมีศักยภาพ 78 %ยังรักษากำไร

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการแจ้งเตือนผู้ลงทุน ในบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มส่วนผู้ถือหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจนำไปสู่ความเสี่ยงจะถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต โดยความคืบหน้าอยู่ระหว่างการหาหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม และคาดว่าจะสามารถออกมาตรการได้ภายในปีนี้

“สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์เห็น คือ ที่ผ่านมาบางบริษัทมีผลการดำเนินงานเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง กระทบถึงส่วนของผู้ถือหุ้นให้มีแนวโน้มจะติดลบจนนำไปสู่การออกจากเป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์มองว่า เราควรจะมีเครื่องมือที่แจ้งเตือนนักลงทุนว่าบริษัทอยู่ระหว่างช่วงถดถอย เพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน ”

มาตรการในเบื้องต้นตลาดหลักทรัพย์อาจจะขึ้นเครื่องหมาย เพื่อแจ้งเตือนผู้ลงทุน และหามาตรการเพิ่มเติมมีดำเนินการกับบริษัท นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการกำหนดเงื่อนไขบริษัทที่จะต้องเข้าสู่มาตรการดังกล่าวว่าต้องมีผลการดำเนินงานอย่างไร หรือมีส่วนทุนลดลงถึงขั้นไหนจะเข้าสู่มาตรการ

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ขอเน้นย้ำว่าการที่ส่วนผู้ถือหุ้นปรับลดลงไม่ใช่สิ่งที่จะผิดปกติเสมอไป อาจเกิดจากภาวะอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวต่อเนื่องจนกระทบกับผลการดำเนินงานบริษัท หรือปัจจัยเฉพาะของบริษัทนั้นๆ

มาตรการดูแลบริษัทจดทะเบียนที่มีปัญหาในปัจจุบันนั้น จะดำเนินการในด้านการสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้ชี้แจงข้อมูลเวลาที่กำหนด และขึ้นเครื่องหมายหยุดพักการซื้อขาย SP จนกว่าจะมีการตอบคำถามจนครบถ้วน และหากบริษัทจดทะเบียนรายใดตอบคำถามไม่ครบถ้วนจะคงเครื่องหมายต่อไป

กรณีบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขึ้นเครื่องหมาย SP 1 วันและเปิดให้ทำการซื้อขายตามปกติเป็นไปตามเกณฑ์เพื่อแจ้งเตือนกับผู้ลงทุนว่า บริษัทมีปัญหาในเรื่องผู้สอบบัญชีไม่ออกความเห็นตลาดยังคงเครื่องหมาย NP เพื่อแจ้งเตือนผู้ลงทุน จนกว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)จะมีการสอบถามและตรวจสอบเพิ่มเติมครบถ้วน จึงจะสามารถปลดเครื่องหมาย NP ออกไป

บริษัทจดทะเบียนยังมีความแข็งแกร่งโดยในไตรมาสที่ 2 มีกำไรสุทธิ 445 บริษัท หรือคิดเป็น 78 %จำนวนของบริษัทที่ขาดทุนใกล้เคียงเดิม ทั้งนี้ผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยกับการตัดสินคดีจำนำข้าว ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประเมินว่า ผลกระทบกับตลาดหุ้นอาจจะมีไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนได้รับรู้ถึงปัญหาดังกล่าวไปแล้ว