นักวิชาการมช.พร้อมพวก พบตร.ปัดข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช.

นักวิชาการมช.พร้อมพวก พบตร.ปัดข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช.

"ดร.ชยันต์" นักวิชาการ มช. พร้อมพวก 5 คน รับทราบข้อกล่าวหาตร. พร้อมปฏิเสธทุกเรื่อง ระบุจะให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช.

หลังจาก ดร.ชยันต์ วรรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคศึกษาด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมพวกรวม 5 คน ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ตั้งแต่เมื่อเวลา 13.00 น. และได้ออกจากสภ.ช้างเผือก ท่ามกลางนักวิชาการ และประชาชน ที่มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก เมื่อเวลา 15.30 น.

นายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความ เปิดเผยว่า ทุกคนที่เดินทางมาในวันนี้ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะให้การเป็นลายลักษณ์อักษร โดยทางพนักงานสอบสวนได้นัดเข้ามาอีกครั้งในวันที่ 1 กันยายน 60 เวลา 10.00 น. โดยจะยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมพยานหลักฐานพร้อมกันในวันดังกล่าวเพื่อแก้ต่าง

สำหรับข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ทราบว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 ช่วงเวลา 15.00 น. มีการติดป้าย เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร โดยกล่าวหาว่า ดร. ชยันต์ พร้อมพวกรวม 5 คน ชูป้ายดังกล่าว พร้อมทั้งอ้างว่าเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านทางการเมือง วันนี้จึงเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น หลังจากนี้จะให้การเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งรวบรวมหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนในวันที่ 1กันยายน 2560

ส่วนเรื่องฝ่ายมั่นคงจะเรียกตัวเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจนั้นสามารถดำเนินการได้ แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้ชี้นำว่าจะต้องเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับฝ่ายความมั่นคง

ดร.ชยันต์ วรรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคศึกษาด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ชี้แจงให้รับทราบว่า หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับฟังข้อกล่าวหาแต่อีกฝ่ายหนึ่ง คือฝ่ายความมั่นคงพร้อมทั้งอธิบายวิธีทางออก ว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไปหากเข้าไปชี้แจงกับฝ่ายความมั่นคงจะมีการลดหย่อนผ่อนโทษอย่างไรบ้าง แต่นั่นหมายถึงว่าต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในทันทีและเป็นผู้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาที่กล่าวหานั้น แต่ข้อกล่าวหาที่ฝ่ายความมั่นคงกล่าวหานั้นไม่มีความชัดเจน และไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวหา การแสดงออกในระหว่างการจัดประชุมทางวิชาการ ถูกตีความไปนอกบริบทที่เกิดขึ้นจริง หากมีการเชิญ

ขณะนี้เดินทางเข้ามาเพียงรับทราบข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวนหลังจากนี้ จะให้ปากคำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมทั้งหาหลักฐานมา แสดงให้กับพนักงานสอบสวนได้รับทราบเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป สำหรับกำลังใจที่เดินทางมาให้ในวันนี้ รู้สึกดีใจอย่างมาก หากฝ่ายมั่นคงเชิญไปชี้แจ้งก็คงเลี่ยงไม่ไปเพราะได้ชี้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว หากไปก็จะกลายเป็นผู้ต้องหา มีความผิด

สำหรับบรรยากาศโดยรอบมีกลุ่มนักวิชาการองค์กรอิสระประชาชน เดินทางมาให้กำลังใจ ผู้ถูกข้อกล่าวหาทั้ง 5 คน ประมาณ 100 คนพร้อมกันนั้น นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เดินทางมาให้กำลังใจด้วย