เตรียมเสนอแผนแก้ปัญหาน้ำอีสานเข้าครม.สัญจร

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลฯเตรียมเสนอแผนจัดการน้ำช่วยแก้ไขการขาดแคลนน้ำและน้ำท่วม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งระบบในการประชุม ครม. สัญจร 22 สิงหาคม ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งรวมไปถึง การแก้ปัญหาน้ำในจังหวัดนครราชสีมานั้นมีทั้งปัญหาขาดแคลนน้ำและน้ำท่วม โดยโครงการจะแก้ไขและบรรเทาอุทกภัยและขาดแคลนน้ำมีหลายรูปแบบ อาทิ การก่อสร้างประตูระบายน้ำ แก้มลิง และพิจารณาสร้างทางระบายน้ำเพิ่มเติมช่วงลำเชียงไกรตอนล่างและลำสะแทด

ทั้งนี้ แผนงานดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานตามยุทธศาสตร์น้ำของประเทศ ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณา ตามแผนบูรณาการหาแนวทางแก้ไขอย่างยั่งยืน และ พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการ ให้กรมชลประทาน ลงพื้นที่สำรวจพนังกั้นน้ำชีที่จังหวัดร้อยเอ็ดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม และบินสำรวจสภาพโครงข่ายลำน้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพื่อดูถึงสถานการณ์ล่าสุด และเตรียมเสนอข้อมูลใน ครม.สัญจรด้วย

สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคที่มีพื้นที่การเกษตรกว่า 63 ล้านไร่ มากที่สุดของประเทศ แต่ยังขาดความมั่นคงในเรื่องน้ำ เนื่องจากความไม่สมดุลของการกระจายตัวของฝนและลักษณะภูมิประเทศมีส่วนสำคัญที่ทำให้พื้นที่ภาคอีสานแห้งแล้ง ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ และเกษตรกร นอกจากนั้นในฤดูฝนก็ประสบปัญหาน้ำท่วมโดยเฉพาะพื้นที่ริมขอบแม่น้ำโขง และสองฝั่งลำน้ำชี-มูลอย่างเช่นที่เกิดในหลายพื้นที่ในขณะนี้ ที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้พัฒนาแหล่งน้ำตามนโยบายรัฐบาล ผลงานตั้งแต่ปี 2557-2560 พัฒนาแหล่งน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,276 แห่ง มีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้น 487 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้พื้นที่ชลประทาน 782,973 ไร่ ประมาณร้อยละ 50 ของทั้งประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นการเพิ่มความจุแหล่งเก็บน้ำเดิมและพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กที่ท้องถิ่นต้องการและใช้เวลาสำรวจออกแบบไม่นานนัก เช่น แก้มลิง ฝาย และประตูระบายน้ำเพื่อนำน้ำก่อนไหลลงแม่น้ำโขงมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และระบบชลประทาน ที่ทำได้โดยไม่กระทบกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า จากแผนงานเดิมมและกระจายทั่วไปทั้งภาคอีสาน