ทายาทนายพลต้วน ร้องสื่อถก'พ.ต.ท.'พยายามยึดที่ดิน14ไร่

ทายาทนายพลต้วน ร้องสื่อถก'พ.ต.ท.'พยายามยึดที่ดิน14ไร่

ลูกชายและหลานสาว "นายพลต้วน" อดีตผู้นำทหารจีนฮ่อ ร้องสื่อถูกนายตำรวจยศ "พ.ต.ท." พยายามยึดที่ดิน14ไร่

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ส.ค.2560 ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมด้วย นายอุดม คำลือ อายุ 59 ปี น.ส.ดนิตา ตันติวณิช อายุ 34 ปี ทายาทนายพล ต้วน ซี เหวิน อดีตผู้นำทหารจีนฮ่อ แห่งกองพันที่ 5 กองพล 93 และนายดุลยสิทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ได้เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน กรณีถูกนายตำรวจยศ พ.ต.ท. รายหนึ่ง พยายามยึดที่ดินจำนวน 14 ไร่ บนดอยแม่สลอง ที่ครอบครัวนายพลต้วนได้รับอนุญาตจากรมป่าไม้ให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวน จากการทำคุณงามความดีปราบปรามคอมมิวนิสต์ในพื้นที่

น.ส.ดนิตา กล่าวว่า วันนี้ตนในฐานะลูกสาวของนายอุดม และทายาทนายพลต้วน พร้อมทนายความ อยากจะขอความเป็นธรรม หลังจากถูกตำรวจนายหนึ่งยึดที่ดิน โดยเมื่อปี 2516 กองบัญชาการทหารสูงสุด ได้อนุญาตให้นายพลต้วนและกองกำลังทหารจีนคณะชาติ ได้สิทธิให้อยู่อาศัย ครอบครองที่ดิน และทำกินตามเงื่อนไข หลังได้ต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในพื้นที่ภาคเหนือ ต่อมาปี 2524 นายพลต้วนได้เสียชีวิต และนายอุดม ซึ่งเป็นบุตรชายนายพลต้วน จึงได้สิทธิอยู่อาศัยต่อในพื้นที่และกฎกระทรวงได้ประกาศให้พื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติ

น.ส.ดนิตา กล่าวอีกว่า ต่อมา เมื่อปี 2527 รัฐบาลได้พัฒนาพื้นที่ดอยแม่สลอง หรือหมู่บ้านสันติคีรี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยทายาทขออนุญาตหน่วยงานทหารที่ควบคุมดูแลที่ดินก่อสร้างอาคารห้องพัก เพื่อประกอบธุรกิจรีสอร์ท ชื่อว่า “คุ้มนายพลรีสอร์ท” รวมทั้ง ได้ทำการเกษตรปลูกไร่ชาเพิ่มเติมด้วย จากนั้น ปี 2539 นายอุดมป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องต้องการใช้เงินจำนวนมาก จึงได้ไปกู้ยืมเงินจากธนาคาร จำนวน 3.5 ล้านบาท แต่ประสบปัญหา เลยขอให้นางนภา คำลือ ภรรยา ไปพบกับนายตำรวจรายหนึ่ง เพื่อช่วยใช้หนี้ธนาคารด้วยการแลกเปลี่ยนกับการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนบริหารรีสอร์ท โดยได้ส่วนแบ่ง 70 ต่อ 30 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นร้านขายของที่ระลึกและไร่ชา

โดยช่วงแรกได้มีการแบ่งกำไรตามข้อตกลง กระทั่งผ่านไป 3 ปี นายตำรวจคนดังกล่าว กับไม่ได้ทำตามข้อกำหนด ทายาทจึงได้บอกยกเลิกสัญญา จนเกิดการฟ้องร้องกันขึ้นเมื่อปี 2546

น.ส.ดนิตา กล่าวอีกว่า ต่อมาศาลจังหวัดเชียงราย ได้เพิกถอนการซื้อขายทั้งหมดของนายตำรวจรายนี้ กระทั่งนายตำรวจคนดังกล่าว ได้ให้ตัวแทนเป็นหญิงสาวรายหนึ่งมาดำเนินการแทน ทั้งร้านอาหารและรีสอร์ท จนเกิดการฟ้องร้องศาลปกครองขึ้น และมีคำสั่งให้หญิงคนดังกล่าวออกไป และให้คืนกิจการให้ทายาทของนายพลต้วนเข้ามาดูแล แต่ก็ไม่สามารถคืนได้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวได้มอบให้ สปก. เข้ามาดูแล ทำให้หญิงคนดังกล่าวไปทำเรื่องขอเช่าพื้นที่ดังกล่าวกับทาง สปก.

“ทายาทนายพลต้วน ก็ได้ทำเรื่องคัดค้านไปยัง 7 หน่วยงาน โดยให้เหตุผลว่า หญิงคนดังกล่าวไม่ได้เป็นเกษตรกร ไม่สามารถใช้พื้นที่ สปก. ได้ ครอบครัวเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน เพราะหน่วยงานรัฐฯ ดูเหมือนจะอำนวยความสะดวกให้หญิงคนดังกล่าว และเกรงว่าทายาทนายพลต้วน เป็นบุคคลธรรมดาไม่สามารถต่อสู้ได้ และจะต้องเสียที่ดินไป”

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า หลังผู้ร้องเรียนมาขอความช่วยเหลือ ตนจึงได้ดำเนินการตรวจสอบหลักฐาน และในวันที่ 23 ส.ค. จะมีการประชุม ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อหาทางออกเรื่องดังกล่าว แต่ในที่ประชุมห้ามไม่ให้ทนายเข้าร่วม คิดว่าอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องเรียนสื่อมวลชน เพื่อเป็นกระบอกเสียงอีกครั้ง