รองผู้การฯศรีสะเกษ ยันไม่เจอร่าง 'ผอ.อ้อย' ก็ฟ้องศาลได้

รองผู้การฯศรีสะเกษ ยันไม่เจอร่าง 'ผอ.อ้อย' ก็ฟ้องศาลได้

เหลืออีก2วัน จะครบกำหนด "รองผบช.ภ.3" รับปากต่อญาติ "ผอ.อ้อย" ที่หายตัวไป ทุกอย่างจะต้องกระจ่าง ด้าน "รองผู้การฯศรีสะเกษ" ยันไม่เจอร่างผอ.อ้อยก็ฟ้องศาลได้

วันที่ 19 สิงหาคม 2560 ที่ห้องสืบสวนสวบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พันตำรวจเอก นิพล บุญเกิด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน คลี่คลายคดี ผอ.อ้อย หรือ นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษาและวัฒนธรรม อบต.ชำ หายตัวไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ซึ่งญาติๆ ได้เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจภูธรบึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ซึ่งช่วงนั้นแจ้งความกรณีคนหาย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเข้าไปจึงทราบว่า เป็นกรณีการลักพาตัว อุ้มไป และอาจจะก่อคดีฆาตกรรมด้วย จึงได้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน และหากหลักฐานที่อาจจะโยงไปยังผู้ก่อเหตุ และร่วมก่อเหตุ

เบื้องต้นได้พยานมาอย่างหนึ่ง ก็คือ รถยนต์เก๋งสีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของ ผอ.อ้อย และจากหลักฐานดังกล่าวสามารถผูกโยงไปหา ร้อยเอกศุภชัย ภาโส หรือ ผู้กองเหน่ง ตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการส่วนหน้า หน่วยเฉพาะกิจเขาพระวิหาร ตำแหน่งผู้บังคับกองร้อย อาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งการนำรถยนต์ไปขาย และเชื่อมโยงด้านธุรกิจทางการเงิน ผ่านระบบบัญชีธนาคารฯ

พันตำรวจเอก นิพล บุญเกิด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในด้านความคืบหน้าของงานด้านสืบสวนสอบสวนในวันนี้คืบหน้าไปมาก สอบพยานทั้ง 2 ฝ่ายไปหมดครบถ้วนตามต้องการแล้ว ซึ่งเราก็ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจะต้องมีพยานในทางเทคนิคเข้ามาเกี่ยวข้องของคดีก็จะต้องรอหลักฐานบางอย่างให้มันชัดแจ้งก่อน จากข้อสันนิษฐานของเรา โดยขณะนี้ได้รับความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่ายเป็นอย่างดี ซึ่งช่วงแรกที่ญาติๆ พ่อ – แม่ เขามาแจ้งความเป็นเพียงการแจ้งคนหาย ไม่เกี่ยวกับคดีฆาตกรรม แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจของเราสืบสวนไปก็พบว่า อาจจะเป็นการฆาตกรรมเราก็ได้จัดตั้งชุดสืบสวนพิเศษ เข้ามาดูแลสอบสวนอย่างจริงจัง

และแน่นอนว่า ในรูปคดีฆาตกรรม หลักฐานสำคัญที่สุดก็คือ ศพ แต่หากไม่ได้ ก็จะต้องอาศัยหลักฐานทางนิติเวชเข้ามาช่วย เพื่อการสนับสนุนข้อกล่าวหา ซึ่งทุกอย่างคงจะต้องรออีกสักระยะหนึ่ง โดยการสอบสวนต่างๆ รุดหน้าไปมาก รอหลักฐานทางเทคนิคมาประกอบก็เชื่อว่าจะสามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้ และหากหลักฐานตรงไปเพียงด้านเดียวก็อาจจะต้องขึ้นศาลทหาร แต่หากหลักฐานชี้มามีประชาชนเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะต้องมาฟ้องที่ศาลพลเรือนได้เช่นกัน ซึ่งหลักฐานต่างๆ ขณะนี้ตรงไปที่เกี่ยวข้องกับการพาไป ลักพาไป อุ้มไป เป็นหลัก
อย่างไรก็ดี เหลือระยะเวลาอีก 2 วัน จะครบกำหนดตามที่ พลตำรวจตรี บุญจันทร์ นวลสาย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนไว้เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2560 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอเวลาอีก 7 วัน ทุกอย่างจะกระจ่าง โดยขณะนี้ญาติๆ นอกจากจะเร่งช่วยในการค้นหาร่าง ผอ.อ้อยทุกจุดที่เชื่อว่าถูกพาไปซุกซ้อนไว้แล้ว ยังรอวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเปิดเผยข้อมูล ความกระจ่างในวันที่ 20 สิงหาคม 2560 ครบกำหนด 7 วันตามที่ขอเวลาสืบสวนดังกล่าว