‘รับสร้างบ้าน’ชี้ปีหน้าโต10%‘ภาษีที่ดิน’เร่งกระตุ้นตัดสินใจ

‘รับสร้างบ้าน’ชี้ปีหน้าโต10%‘ภาษีที่ดิน’เร่งกระตุ้นตัดสินใจ

ธุรกิจรับสร้างบ้านชี้ปีหน้าปัจจัยบวกหนุนตลาดฟื้นตัว หลังโรดแมพเลือกตั้งชัดเจน ภาษีที่ดินใหม่เร่งตัดสินใจใช้ประโยชน์ที่ดินว่างเปล่าสร้างบ้าน  คาดปี 2561  กลับมาโต 7-10% 

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่าภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรกอยู่ในภาวะ “ทรงตัว” จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว  แต่เริ่มเห็นสัญญาณความต้องการสร้างบ้านเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3  คาดว่ามาจากแรงกระตุ้นการจัดแคมเปญโปรโมชั่นของกลุ่มผู้ประกอบการ ร่วมกับสถาบันการเงินให้ข้อเสนอเรื่องดอกเบี้ยสินเชื่อต่ำ เพื่อเร่งการตัดสินใจสร้างบ้าน 

“ไตรมาส4 เดือนต.ค.เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการมีการชะลอการทำตลาดและปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับสถานการณ์  เป็นไปได้ว่ามีการเร่งทำตลาดในไตรมาส 3  จึงมีดีมานด์เพิ่มขึ้นในช่วงนี้”

ในเดือน ส.ค.นี้ สมาคมฯ จะร่วมออกบูธในงาน "บ้าน ธอส. เอ็กซ์โป@กรุงเทพฯ” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 24-27 ส.ค.นี้  ภายในงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 2.9% นาน 3 ปีแรก พร้อมข้อเสนอฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าจดจำนอง ค่าประเมิน หากคิดเป็นมูลค่าสำหรับกลุ่มรับสร้างบ้านจะอยู่ที่ 3-5 หมื่นบาท ถือเป็นข้อเสนอที่ช่วยกระตุ้นตลาดรับสร้างบ้านในไตรมาส3 ให้เติบโต

แต่โดยภาพรวมถึงสิ้นปีนี้ตลาดน่าจะอยู่ในภาวะทรงตัว มีมูลค่าเท่าปีก่อนที่ 1.4 หมื่นล้านบาท 

นายสิทธิพร กล่าวอีกว่ามองทิศทางตลาดรับสร้างบ้านปีหน้า มีโอกาสกลับมาเติบโตอีกครั้งที่ระดับ 7-10%  จากปัจจัยโรดแมพการเมืองชัดเจน โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งช่วงปลายปี 2561 ถึงต้นปี 2562  ทิศทางดังกล่าวส่งผลให้ภาคธุรกิจต่างๆ วางแผนลงทุนได้ชัดเจน  ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นและตัดสินใจสร้างบ้านของผู้บริโภคดีขึ้น 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่คาดมีผลบังคับใช้ปี 2562  ซึ่งมีการจัดเก็บภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่าเพดานสูงสุด 5% โดยจัดเก็บเป็นขั้นบันได  ปัจจัยดังกล่าวเริ่มเห็นสัญญาณผู้บริโภคนำที่ดินว่างเปล่ามาใช้ประโยชน์ด้วยการสร้างบ้าน ที่กลุ่มราคา 1-2 ล้านบาท ในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งทำให้มีธุรกิจรับสร้างบ้านท้องถิ่นรายเล็กเพิ่มขึ้น รวมทั้งการปรับตัวของกลุ่มผู้ขายวัสดุที่ขยายมาทำตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด

ขณะที่กลุ่มที่ถือครองที่ดินและไม่ต้องการสร้างบ้าน พบว่ามีการประกาศขายที่ดิน โดยเริ่มเห็นทิศทางดังกล่าวตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา 

นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน  กล่าวว่าการบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นการตัดสินใจสร้างบ้านของผู้บริโภค ที่เริ่มเห็นตั้งแต่ปีนี้ เพราะการสร้างบ้านต้องใช้ระยะเวลา 3-6 เดือน เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อเนื่องต่อตลาดในปีหน้าเช่นกัน เนื่องจากเจ้าของที่ดินไม่ต้องการเสียภาษีที่ดินว่างเปล่าในอัตราสูง 

“มองว่าโรดแมพการเมืองที่ชัดเจน และแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวในปีนี้ จะเป็นผลบวกผลักดันการเติบโตตลาดรับสร้างบ้านปีหน้ากลับมาขยายตัวสูงที่ระดับ 10%  จากปกติเติบโต 5-7%”

ส่วนตลาดรับสร้างบ้านปีนี้คาดทรงตัว มูลค่าอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาทเช่นเดียวกับปีก่อน    

สำหรับการจัดงาน“รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Expo 2017” วันที่ 17-20 ส.ค. 2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีสมาชิกกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านกว่า 30 บริษัท นำเสนอแบบบ้านภายในงานกว่า 1,000 แบบ พร้อมโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน สมาคมฯตั้งเป้ายอดขายในงาน 2,500-2,700 ล้านบาท และเม็ดเงินที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากลูกค้าในงานที่ตัดสินใจสร้างบ้านภายหลังอีกราว 4,500-5,000 ล้านบาท