เตรียมเเผนเผชิญเหตุ-รปภ. วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9

เตรียมเเผนเผชิญเหตุ-รปภ. วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9

ตำรวจร่วมทหาร3เหล่าทัพ เตรียมเเผนเผชิญเหตุ-รปภ. พระบรมวงศานุวงศ์และปชช. วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 9

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านกิจการพิเศษ (รองผบ.ตร.กศ.) เป็นประธานการประชุม เตรียมจัดทำแผนเผชิญเหตุงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9

โดยมีพล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธ์ รักษาราชการแทนที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ดุสิต สังขะเมฆะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตัวแทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมประชุม

พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านอำนวยการจราจรและ ดูแลความปลอดภัย ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เป็นการประชุมเพื่อวางแผนและเตรียมความพร้อมในการทำแผนเผชิญเหตุ โดยหลักสำคัญต้องสมพระเกียรติสูงสุดและปลอดภัยสูงสุดเช่นกัน ทั้งนี้การทำแผนเผชิญเหตุเป็นไปตามสมมุติฐานที่ต้องคาดไว้ก่อนหากเกิดกรณีฉุกเฉิน หรือมีภัยคุกคาม จะต้องเตรียมแผนรองรับ เพื่อให้พระบรมวงศานุวงค์ทุกพระองค์ปลอดภัย ประชาชนทุกหมู่เหล่าที่ร่วมงานก็ปลอดภัยพระราชพิธีผ่านไปอย่างราบรื่น

รองผบ.ตร.กล่าวว่า ในวันที่ 19 สิงหาคม เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดต่างๆในสถานที่จริงในการกำหนดแผนเผชิญเหตุทุกมิติ น้ำฟ้าฝั่ง ทั้งภาคพื้นดิน ทางอากาศและทางน้ำ และส่วนสำคัญที่สุดที่ในการดูแลความปลอดภัยคือต้องการความร่วมมือการสอดส่อง เป็นหูเป็นตาจากประชาชนในการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กรณีพบเห็นสิ่งผิดปกติ เปรียบเสมือนกล้องซีซีทีวีจากภาคประชาชนที่คอยเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่รัฐ คอยแจ้งเหตุ
“ได้จัดเตรียมชุดปฏิบัติการพิเศษที่รวมกำลังของกองทัพบก เรือ อากาศและตำรวจไว้ด้วยกันจำนวน 100 นายเป็นชุดปฏิบัติการที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ ได้ทันท่วงทีกรณีหากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุไม่พึงประสงค์

โดยสั่งการผ่านกองอำนวยการร่วมใช้ระบบการสั่งการวันวอยซ์วันคอมแมน แยกกันทำงานแต่สั่งการโดยผู้บังคับบัญชาคนเดียวเพื่อให้งานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพซึ่งขณะนี้งานด้านการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรความปลอดภัยและการเตรียมแผนเผชิญเหตุมีความพร้อมมีร้อยละ 99 .99 แล้ว อย่างลงตัวเหลือเพียงการซักซ้อมและเติมเต็มให้สมบูรณ์เท่านั้น