ชาติสูญรายได้4,313ล้าน! ผลตรวจรถหรู3ล็อตรวม259คันเลี่ยงภาษี

ชาติสูญรายได้4,313ล้าน! ผลตรวจรถหรู3ล็อตรวม259คันเลี่ยงภาษี

ประเทศสูญรายได้จากเลี่ยงภาษี4,313ล้าน จากกรณีผลตรวจรถหรู3ล็อตรวม259คัน "ดีเอสไอ" จ่อส่งข้อมูลเพิ่มจากอิตาลีให้กรมศุลฯประเมินภาษีอีกกว่า600คัน ยันดำเนินคดีกับผู้นำเข้าสำแดงเท็จทุกบริษัท

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 18 ส.ค. 2560 - พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบขบวนการนำเข้ารถยนต์หรูหลบเลี่ยงภาษี ว่า ล่าสุดกรมศุลกากรได้ประเมินรายการภาษีที่ชำระไว้ไม่ครบถ้วนของรถยนต์ที่ดีเอสไอส่งบัญชีให้ตรวจสอบ โดยในล็อตที่ 3 จำนวน 136 คัน พบว่ามีมูลค่าภาษีอากรขาดประมาณ 2,473 ล้านบาท รวมจำนวนรถยนต์ที่ทางกรมศุลกากรได้จัดส่งข้อมูลบัญชีรายละเอียดภาษีอากรขาดกลับมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษทั้งสิ้น 259 คัน คิดเป็นมูลค่าภาษีอากรขาดทั้งสิ้น 4,313 ล้านบาท

แบ่งเป็นล็อตแรก จำนวน 32 คัน พบว่ามีมูลค่าภาษีอากรขาดรวมประมาณ 673 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอได้เรียกกลุ่มผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วจำนวน 3 กลุ่มบริษัท ผู้ต้องหารวมจำนวน 16 คน ส่วนรถยนต์ล็อตที่ 2 จำนวน 91 คัน มีมูลค่าภาษีอากรขาด รวมประมาณ 1,165 ล้านบาท ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างเรียกกลุ่มผู้นำเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาจำนวน 2 กลุ่มบริษัท รวม 16 คน สำหรับผู้เกี่ยวข้องกับการนำเข้ารถยนต์ล็อตที่ 3 จำนวน 259 คัน ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้

เบื้องต้นคาดว่าอาจมีรายชื่อผู้ต้องหาซ้ำกับผู้นำข้ารถยนต์ 2 ล็อตแรก เพราะเป็นการนำเข้ารถยนต์จากประเทศอิตาลีเช่นเดียวกัน โดยการดำเนินคดีจะแจ้งข้อกล่าวหามตามใบขนที่สำแดงเอกสารเท็จเป็นรายคัน

"ล่าสุดดีเอสไอได้รับการประสานข้อมูลจากประเทศอิตาลี ถึงราคารถที่ถูกส่งมาจำหน่ายในไทย ได้แก่ ลัมโบฯ 169 คน มาเซ 186 คัน และเฟอรรารี 390 คัน รวม 658 คัน จะส่งให้ศุลกากรประเมินภาษีล็อตต่อไป นอกจากนี้ทางการอิตาลีจะทยอยส่งข้อมูลให้ดีเอสไอดำเนินการต่อไป ในส่วนของการนำเข้ารถโดยเลี่ยงเป็นการนำเข้าของนักเรียนไทยในต่างประเทศ และการสวมทะเบียนรถจากการปลอมเอกสารการประมูลรถยนต์ของทหาร ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของดีเอสไอ ยืนยันได้ว่าดีเอสไอจะดำเนินคดีกับผู้นำเข้าที่สำแดงราคาเท็จครบถ้วนทุกบริษัท" พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าว

พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้นำเข้าที่ได้รับความเสียหายจากการถูกอายัดรถยนต์จำนวน 160 คัน โดยเป็นรถยนต์หลายยี่ห้อ อาทิ ลัมโบร์กินี, โรสลอยด์, แมคคาเรน, โลตัส นั้น ดีเอสไอได้ขอให้กรมศุลกากรพิจารณาการชำระภาษีในส่วนที่ชำระไว้ไม่ครบถ้วนก่อนการถอนอายัด

ทั้งนี้เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีได้ครบถ้วนเต็มจำนวน ในส่วนของดีเอสไอมีหน้าที่เพียงการดำเนินคดีอาญาเท่านั้น สำหรับผู้ซื้อดีเอสไอยืนยันมาตลอดว่าเนินดำเนินคดีกับผู้นำเข้าที่สำแดงราคาเท็จ โดยผู้ซื้อสามารถเก็บรักษารถยนต์ไว้ใช้งานได้ตามปกติ