พ่อเครียดจัด 'ผอ.อ้อย' หายตัวไร้วี่แวว

ที่บ้านเลขที่ 65 บ้านซำเม็ง หมู่ที่ 3 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านพี่สาวของ ผอ.อ้อย นายบุญเลิศและ ยายแหลม บิดา- มารดา ขณะนี้เริ่มเกิดอาการเครียดเพิ่มหนักขึ้น จากเดิมที่มีโรคประจำตัวคือโรคความดันสูง ต้องทานยาลดความดันทุกเช้า แต่วันนี้มีอาการเครียดจัดหนักเพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่ชาวบ้านพยายามบุกป่าขึ้นไปควานหาร่างของลูกสาว ผอ.อ้อย หรือนางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ติดต่อกันหลายวันแล้ว แต่ยังไม่พบร่องรอยใดๆ แม้จะทำทุกวิถีทาง ทั้งหาพระที่เชื่อว่า เก่งๆ ดังๆ ทั้งหาหมอพราหมณ์ หมอผี ผู้ที่เชื่อว่าสามารถติดต่อกับดวงวิญญาณของลูกสาวได้ ก็ไปหา ทำตามทุกอย่าง รวมทั้งผู้ที่เพื่อนบ้านมาบอกให้ไป ประกอบพิธีกรรมทางๆ ก็ดั้นด้นไปพบ แต่จนวันนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้พบลูกสาวของตน จึงทำให้กลุ้มใจ เครียดหนัก บ่นกับเพื่อนบ้านมาคอยมาให้กำลังใจอยู่ตลอดทุกวันตลอดทั้งวันว่า ตนแพ้แล้ว หมดปัญญาที่จะหาลูกสาวแล้ว ลูกก็หาย บ้านก็สร้างไม่เสร็จ

นายบุญเลิศ พ่อ ผอ.อ้อย เปิดเผยว่า วันนี้ตนทำทุกอย่างแล้ว ในการติดตามหาร่างลูกสาว ที่ตนเชื่อว่าถูกฆาตกรรมเสียชีวิตไปแล้วแน่นอน และเชื่อว่าสาเหตุมาจากการที่ลูกสาวตนใจดีเกินไป ในการให้ยืมเงินไปจำนวนมากๆ จากความไว้ใจลูกหนี้ จากเดิมที่เคยให้กู้คนละหมื่นสองหมื่น เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันก็เลยให้ยืมไป แรกๆ ก็อาจจะส่งคืน แต่ด้วยจำนวนมากๆ เพิ่มขึ้นจึงอาจจะไม่มีมาส่งคืน ประกอบกับลูกสาวตน ได้กู้ยืมเงินมาเพื่อเก็บไว้สร้างบ้าน ซึ่งกำลังสร้างด้วยเงินเก็บตนเอง และของสามีที่ตนร่วมกู้จาก ธ.ก.ส.มาช่วยอีก 6 แสนกว่าบาท รวมๆ แล้วก็เป็นจังหวะที่มีเงินรวมกว่า 3 – 4 ล้าน เพราะ อ้อย จะเป็นผู้ที่ไปซื้อวัสดุมาให้ช่างได้รับจ้างก่อสร้าง เพื่อความประหยัด เมื่อเข้าจังหวะมีเงินรอไว้สร้างบ้าน เพื่อนรู้ก็มาขอยืมไปหมุนก่อน แต่พอถึง อ้อย จะใช้กลับไม่มีให้คืน จึงเกิดการทวงถาม ก่อนที่จะหายตัวไป และปกติ อ้อย ก็จะมีทองคำ เป็นทั้งสร้อยคอ สร้อยแขน แหวน พกติดตัวไปด้วย เวลาออกงานสำคัญๆ ก็จะเอามาใส่ แต่หากเวลาปกติก็จะใส่กระเป๋าถือไว้ ซึ่งวันนี้หายไปด้วย แต่นั้นไม่สำคัญเท่าชีวิตของลูกสาวตน

ในขณะเดียวกัน ภายหลังจากที่ชาวบ้านทั้งจากหมู่ที่ 3 หมู่ที่ 7 บ้านซำเม็ง ที่เพื่อนบ้านของพ่อบุญเลิศ แม่แหลม ได้เริ่มพบกับทางตันว่าวันนี้จะเดินทางไปค้นหาร่าง ผอ.อ้อย ยังจุดใด เพราะเริ่มเหนื่อยล้าแล้วทั้ง 3 จุดและทุกวันก็เฝ้าเช็คดูข่าวจากทีวีแทบทุกช่อง ในการนำเสนอข่าว การติดตามหา ผอ.อ้อย ซึ่งข่าวก็มีจริงบ้าง เท็จบ้าง และพี่สาว ผอ.อ้อย ก็เฝ้ามองแต่โทรศัพท์มือถือ หวังว่า ผอ.อ้อย จะโทรมาว่าอยู่ที่ไหน และให้ไปรับทุกวัน