สลดใจ!! เดินตามหาสามีพบเป็นศพอยู่ใต้ฝาย

สลดใจ!! เดินตามหาสามีพบเป็นศพอยู่ใต้ฝาย

สุดสลดใจ!! สามีออกไปหาปลาแต่เช้ามืดแล้วไม่กลับมา ภรรยาออกไปตามหาทั้งวัน ก่อนพบว่ากลายเป็นศพอยู่ใต้ฝายกั้นน้ำ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ส.ค.2560 หน่วยกู้ภัยสุรินทร์ มูลนิธิจิบเต็กเซียงตึ๊งได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณฝายกั้นน้ำลำพลับพลา หมู่ที่7บ้านตาเสือ ต.ทุ่งกุลา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จึงพร้อมด้วยทีมนักประดาน้ำรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นฝายกั้นน้ำที่กั้นระหว่างอำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ และ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ดซึ่งกว้างประมาณ 25 เมตร และมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวรุนแรงโดยจุดที่เกิดเหตุอยู่ในฝั่งของ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ดซึ่งได้รับการเปิดเผยจากนางผดุง สะสม อายุ 54 ปีว่า ผู้เสียชีวิตคือนายทองดี สะสม อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นสามีของตนโดยเมื่อเช้าก่อนเกิดเหตุได้ออกมาหาปลาที่บริเวณฝายแห่งนี้ตั้งแต่เช้ามืดจนกระทั่งบ่ายตนจึงได้ออกมาตามเนื่องจากไม่เห็นสามีกลับมากินข้าวที่บ้านแต่เมื่อมาถึงฝายน้ำล้นบริเวณที่เกิดเหตุพบแต่เพียงเบ็ดและรองเท้าแตะของสามี และพบรอยลื่นไถลลงไปในน้ำจึงรู้ว่าต้องเกิดเหตุร้ายกับสามีแน่จึงได้รีบกลับมาบอกญาติๆให้ช่วยกันออกตามหา พร้อมกับแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และจากจังหวัดสุรินทร์ให้มาช่วยกันงมหาร่างของนายทองดี

โดยทีมนักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยสุรินทร์ซึ่งมีอุปกรณ์และทีมงานที่พร้อมกว่าจึงได้เป็นฝ่ายจัดทีมลงงมหาร่างของผู้เสียชีวิตโดยเริ่มงมหาจากจุดที่เกิดเหตุออกไปตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและรุนแรงโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงพบร่างของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุออกไปประมาณ 100 เมตรจากนั้นจึงได้นำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมายังฝั่งของอำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ซึ่งอยู่ใกล้ฝั่งกว่า

แต่เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุเป็นเขตอำนาจการสอบสวนของ สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ดหน่วยกู้ภัยสุรินทร์จึงได้มอบร่างของผู้เสียชีวิตให้กับญาติซึ่งได้นำรถยนต์ขับอ้อมหมู่บ้าน เพื่อข้ามฝั่งมารอรับนำกลับไปยังฝั่งอำเภอสุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ดโดยมี พ.ต.ท.สมบัติ ผิวผ่อง สว. (สอบสวน) สภ.สุวรรณภูมิและแพทย์เวรจากโรงพยาบาลสุวรรณภูมิรอทำการชันสูตรพลิกศพอยู่อีกฝั่งก่อนที่จะมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป