ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นในช่วงแคบ

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (17ส.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้นในช่วงจำกัด หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สหรัฐยังคงผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.66%  ปิดที่ราคา 47.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.51% ปิดที่ราคา 51.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อีไอเอ เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้น 79,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับมากกว่า 9.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และพุ่งขึ้น 12.75% เหนือระดับต่ำสุดที่ทำไว่ในกลางปี 2559 และระบุว่า  สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นการปรับตัวลงสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน

ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 8.95 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3.1 ล้านบาร์เรล

ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินทรงตัว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 702,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 572,000 บาร์เรล

อีไอเอ ยังคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 113,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 5.585 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนส.ค.

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3 แท่น สู่ระดับ 768 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา